ดีเจแมน-ใบเตย เปิดใจครั้งแรกหลังมีชื่อเอี่ยวแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3 ดี ยืนยันไม่ใช่แม่ข่าย ย้ำยังปลอดภัยดีไม่ได้โดนควบคุมตัว เสียใจที่มีข่าวทำคนคลางแคลงใจ

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา อินสตราแกรม @Bitoeyrsiam ของใบเตย-สุธีวัน เผยแพร่คลิปเปิดใจของดีเจแมน และใบเตย ให้สัมภาษณ์ครั้งแรก หลังตกเป็นประเด็นวิจารณ์ในสังคม กรณีที่อัยการคดีพิเศษให้ดีเอสไอ ดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหาเพิ่ม คดีแชร์ฟอเร็กซ์ 3 ดี ชุด 4 อีกรวม 16 คน ซึ่งทั้งดีเจแมนและใบเตย มีชื่อรวมอยู่ด้วยนั้น

โดยทั้งคู่เปิดใจผ่านคลิปความยาว 23 นาทีว่า อยากจะมาพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา ทั้งคู่ยังไม่ได้โดนจับ ยังไม่มีการสั่งฟ้องใดๆ มาถึงทั้งสองคน สิ่งที่ถูกต้องคือ จะมีการเรียกสอบสวนขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก 14 คนที่มีรายชื่อจากทางดีเอสไอ และทางอัยการเพิ่มขึ้นมา ตามข่าว แต่ยังไม่มีการระบุชื่อว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งทั้งคู่ก็ยินดี ตอนนี้เป็นขั้นตอนของกฎหมายที่ทางอัยการจะส่งเรื่องมาทางดีเจแมนและใบเตย ซึ่งทั้งคู่ชี้แจงว่าได้พูดความจริง ชี้แจงทุกอย่างไปหมดแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำใหม่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เห็นข่าวแล้วรู้สึกเป็นเรื่องใหญ่ และตกใจมาก เมื่ออัยการและดีเอสไอต้องการข้อมูล ต้องการให้ไปสอบสวนเพิ่ม ต้องการที่มาที่ไป ทางดีเจแมน-ใบเตย พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะทั้งคู่มีหลักฐาน และข้อมูลทางการเงินทุกอย่าง ซึ่งทางดีเอสไอมีข้อมูลทุกอย่างอยู่แล้ว ทั้งคู่เคยไปชี้แจงกับดีเอสไอมาแล้วรอบหนึ่ง

ประเด็นที่สองที่ใบเตยขอเคลียร์เลย ก็คือ ทางใบเตยไม่ได้เป็นผู้ลงทุน ไม่ได้เป็นแม่ข่ายใดๆ ไม่เคยเชิญชวนคนมาลงทุน ที่สำคัญไม่มีชื่ออยู่ในบริษัทฟอเร็กซ์ 3 ดี และเจ้าของกิจการที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3 ดีทั้งสิ้น

ขณะที่ดีเจแมนระบุว่า มีรูปถ่ายกับทางซีอีโอ เพราะเป็นคนรู้จักกัน นอกจากนั้นเป็นคนที่ลงทุนเอง และสามารถอธิบายได้ทุกภาพที่เกิดขึ้นบนโซเชียล รวมถึงประเด็นที่ถูกโยงไปเรื่องสินสอดในงานแต่ง สามารถอธิบายได้หมด และไม่เกี่ยวข้องจริงๆ ดีเจแมนยืนยันว่า รู้พร้อมทุกคนเมื่อตัวการโดนออกหมายจับ และได้ทำเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหาย

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งคู่เกิดความเสียหาย และคนรอบตัวเกิดความคลางแคลงใจ ซึ่งทั้งคู่ได้ออกมาชี้แจงเพราะอยากให้ฟังจากปากของดีเจแมนและใบเตย เพราะข่าวสารดูไปกันใหญ่ อยากเคลียร์ว่ายังปลอดภัยดี ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของทางอัยการและทางดีเอสไอ โดยใบเตยทิ้งท้ายว่า อยากให้คนดูข่าวใช้วิจารณญาณที่อ่านข่าวจากแหล่งข่าว และรู้ข้อมูลที่เป็นความจริง รู้จากแหล่งข่าวที่ถูกต้องและมีข้อมูลที่เป็นความจริง ทั้งคู่ยืนยันความบริสุทธิ์ ถึงกล้าออกมานั่งตรงนี้ การที่มีข่าวออกไปเชิงลบ ทำให้ดูน่ากลัวสำหรับคนรอบข้าง และครอบครัวของทั้งคู่