ชายวัย 39 ปี เมาสุราและเสพยาบ้า เกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาด ก่อนจะจุดไฟเผาบ้านตัวเองขณะอยู่คนเดียว จนบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง
วันที่ 23 ส.ค. 2565 เกิดเหตุไฟไหม้บ้านที่บ้านหนองคู ต.หนองคู อ.เมือง จ.ยโสธร ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง สภาพกลางเก่ากลางใหม่ เปลวเพลิงได้ลุกไหม้บ้านอย่างรุนแรงท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้าน เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุอยู่กลางชุมชน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองคูต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ก็ส่งผลให้บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง และโชคดีที่เปลวเพลิงไม่ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
โดยชาวบ้านได้ช่วยกันควบคุมตัว นายเมธี อายุ 39 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ซึ่งมีอาการมึนเมาและเป็นคนที่ลงมือก่อเหตุจุดไฟเผาบ้านตัวเอง เพื่อรอให้ตำรวจ สภ.เมืองยโสธร มารับตัวไปดำเนินคดี หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเมธี อยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนผู้เป็นแม่ออกไปทำงานนอกบ้าน แล้วนายเมธีมีอาการคลุ้มคลั่งก่อนจะจุดไฟเผาบ้านตัวเอง
ขณะที่ นายเมธี ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปร่วมดื่มสุรากับเพื่อน ๆ รวมทั้งได้เสพยาบ้าด้วย จนกระทั่งเช้าจึงกลับเข้าบ้านและขอเงินแม่อีกรอบเพื่อไปซื้อสุรามาดื่มแต่ไม่ได้ และอ้างว่าไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกับแม่มาก่อน แต่สาเหตุที่จุดไฟเผาบ้านตัวเองก็เพราะความมีนเมาจึงจุดไฟเผาบ้านตัวเองเล่นเฉย ๆ
ด้านนางผ่องศรี แม่ของผู้ก่อเหตุและเป็นเจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติตนจะพักอาศัยอยู่กับลูกชายและหลานสาว รวม 3 คน โดยลูฏชายมักจะมีนิสัยชอบดื่มสุราอยู่บ่อยครั้ง และชอบขอเงินบ่อย ๆ ถ้าไม่ได้ก็จะอาละวาด และเชื่อว่าลูกชายเสพยาบ้าด้วย จึงกล้าลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ผู้ก่อเหตุได้ขอเงินตน 300 บาท เพื่อไปดื่มสุรากับเพื่อน ๆ และหายออกจากบ้านไปทั้งคืน จนกระทั่งเช้าวันนี้กลับเข้าบ้านและขอเงินอีก 500 บาท แต่ตนบอกยังไม่มี เดี๋ยวจะออกไปกดเงินมาให้ จากนั้นตนก็ออกจากไปเพื่อไปทำงานตามปกติ โดยปล่อยให้ลูกชายอยู่ในบ้านเพียงลำพัง จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปแจ้งว่าบ้านถูกไฟไหม้จึงกลับมา และพบว่าเปลวไฟกำลังลุกไหม้บ้านทั้งหลัง ตนแทบเข่าทรุด เมื่อเห็นบ้านถูกไฟไหม้ซึ่งเป็นน้ำพักน้ำแรงที่สร้างขึ้นมาถูกลูกชายทำลายลงไป หลังจากนี้ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายเพื่อจะได้ดัดนิสัยของลูกชายบ้าง ซึ่งคาดว่าความเสียหายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท