กรมชลประทาน เดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ภาคอีสาน หลังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ระดมติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อเร่งระบายน้ำ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำต่างๆเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำและระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่
1. จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.มัญจาคีรี และ อ.ชุมแพ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ได้ยกบานประตูระบายน้ำที่เขื่อนชนบท เขื่อนมหาสารคาม เขื่อนวังยาง และเขื่อนร้อยเอ็ด ทุกบาน พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 15 เครื่อง ที่เขื่อนร้อยเอ็ด และมีแผนที่จะติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณเขื่อนวังยาง และสะพานบ้านโนนยาง อ.เสลภูมิ เพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ลำน้ำชี นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำจุดเสี่ยงอีก 6 จุด พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าที่ประตูระบายน้ำ D8 (ห้วยพระคือ) อีก 3 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำในพื้นที่ให้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
2. จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านแท่น และ อ.ภูเขียว โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพรม-เชิญ ได้เร่งระบายน้ำ ด้วยการยกบานประตูระบายน้ำลำน้ำเชิญ อ.ชุมแพ ให้พ้นน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่เขื่อนอุบลรัตน์ตามลำดับ ช่วยลดผลกระทบพื้นที่ตอนบนทั้งในเขต จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น
3. จังหวัดร้อยเอ็ด มีน้ำท่วมพื้นที่นอกพนังกั้นน้ำริมลำน้ำยัง 2 อำเภอ ได้แก่ อ.โพนทอง และ อ.เสลภูมิ โครงการชลประทานร้อยเอ็ด ได้เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 23 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากในพื้นที่ พร้อมนำกระสอบทราย 12,000 กระสอบ วางเสริมป้องกันจุดเสี่ยงน้ำท่วมตลอดแนวพนังกั้นน้ำ
4. จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่น้ำท่วม 6 อำเภอ ได้แก่ อ.วารินชำราบ อ.นาจะหลวย อ.เดชอุดม อ.นาเยีย อ.น้ำยืน และ อ.เมือง โครงการชลประทานอุบลราชธานี ร่วมกับสำนักเครื่องจักรกล ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำมูล จำนวน 100 เครื่อง บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร เพื่อเร่งผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขงให้รวดเร็วขึ้น