"ทนายรณณรงค์" พาพ่อ-ย่า "น้องเจ้าขา" ขึ้นโรงพัก สภ.บางบัวทอง แสดงเชิงสัญลักษณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ล่าช้า ด้วยการใช้ค้อนทุกนาฬิกา

 

วันที่ 2 ก.ย. 65 จากกรณีนายณัฐพล ทองดวง อายุ 29 ปี และนางอนันต์ มาเจริญศรี อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อและญาติของน้องเจ้าขา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อช่วยติดตามคดีและความคืบหน้า หลังน้องเจ้าขาเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บสาหัส โดยได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง แล้ว แต่พบว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (2 ก.ย. 65) ที่สภ.บางบัวทอง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมด้วยพ่อและย่าของน้องเจ้าขา เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่น้องเจ้าขาถูกทำร้ายร่างกายจนสาหัสนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในขณะนี้

โดยทางทนายรณณรงค์ได้ถือนาฬิกา ส่วนนายณัฐพลถือค้อน ขณะที่ผู้เป็นญาติถือภาพถ่ายของน้องเจ้าขาและน้องพีพี มาที่ สภ.บางบัวทอง จากนั้นได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการวางนาฬิกาลง ก่อนที่จะใช้ค้อนทุบ เพื่อเป็นการสื่อถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้อย่างล่าช้า ไม่มีความคืบหน้าปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเป็นเดือน

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าของคดีทั้งของน้องพีพี ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งคดีของน้องเจ้าขา ซึ่งเป็นพี่สาวและถูกทำร้ายจนสาหัสว่า มีความคืบหน้าไปถึงไหน รวมทั้งอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขุดศพของน้องพีพีขึ้นมาพิสูจน์อีกครั้งว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด ซึ่งทางเราคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบหาความจริงมาให้สังคมรับรู้ โดยในช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอไปดูที่บ้านของแม่น้องเจ้าขา ซึ่งอยู่ที่เอื้ออาทร บางบัวทอง เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุและความเป็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร

ส่วนนางอนันต์ ผู้เป็นย่าของน้องเจ้าขา กล่าวว่า ขณะนี้อาการของน้องดีขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับน้อง น้องก็พยักหน้ารับรู้ ส่วนตอนนี้แพทย์ยังคงให้ยาฆ่าเชื้อทางปอดและกระเพาะปัสสาวะ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

ขณะที่นายณัฐพลผู้เป็นพ่อเผยถึงเหตุการณ์ก่อนหย่ากับอดีตภรรยาว่า มีอยู่คืนหนึ่งลูกตนเองร้องเสียงดังมาก จนตกใจรีบตื่นขึ้นมาดูก็พบว่าแม่เขาออกจากบ้านไป ตนเองพยายามโทรหาประมาณ 20-30 ครั้ง ก็ไม่รับสาย จนกระทั่งต่อมาไม่กี่วันตนเองก็พบอดีตภรรยากับแฟนใหม่ขี่รถจักรยานยนต์อยู่หน้าหมู่บ้าน จึงรู้ว่าภรรยาแอบไปมีคนอื่น โดยตนเองพยายามควบคุมอารมณ์และเข้าไปพูดคุยกับภรรยาว่า กลับบ้านค่อยคุยกันหลังจากนั้นมา ก็ทำเรื่องหย่าขาดจากกัน ตนเองไม่รู้จริง ๆ เลยว่า ทำไมต้องทำร้ายลูกถึงขนาดนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสืบหาความจริงและนำตัวคนที่ทำร้ายลูกชายจนเสียชีวิต รวมถึงลูกสาวที่บาดเจ็บสาหัสมาดำเนินคดีให้ได้