ประธานศาล รธน. สั่งสอบปมเอกสาร "มีชัย" แจงวาระ 8 ปี หลุด พร้อมยืนยันยังไม่นัดวินิจฉัยเรื่องนี้ วอนอย่าด่วนสรุป พรุ่งนี้ (8 ก.ย.65) รอฟังแนวทางต่อ ก่อนย้ำตุลาการมีความเป็นกลางตั้งมั่น อยู่บนความยุติธรรม
วันที่ 7 ก.ย. 65 นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งโต๊ะแถลงหลังมีกระแสข่าวเผยแพร่ออกไป ว่า พรุ่งนี้จะมีผลการวินิจฉัย วาระการดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี โดยออกมาเป็นมติกี่เสียงต่อกี่เสียง จนให้สังคมเกิดข้อพิพากษ์วิจารณ์ โดยนายเชาวนะ ยืนยันว่า กระบวนการตอนนี้ยังไม่เป็นถึงขั้นนั้น โดยพรุ่งนี้ (8 ก.ย. 65) จะเป็นเพียงการนำข้อมูลของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาพิจารณา ว่า จะนำไปสู่การวินิจฉัยตัดสินได้หรือไม่ หากยังไม่พอ ก็จำเป็นต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วยวิธีการที่กฎหมายกำหนด เช่น ขอหลักฐานเพิ่มเติมหรือขอให้พยานบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือให้หน่วยงานราชการ หรือพนักงานสอบสวนกระทำเพื่อให้การอย่างไรที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นไปตามลำดับกระบวนการวิธีพิจารณาเพราะคำร้องลักษณะนี้ ไม่มีเงื่อนไขเวลาที่กำหนดไว้ แต่กฎหมายเขียนกำหนดไว้ว่า ถ้าพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเพียงพอแก่การวินิจฉัย ให้ศาลยุติการแสวงหาพยานหลักฐาน และให้กำหนดประเด็นในการวินิจฉัย เมื่อกำหนดประเด็นแล้ว ศาลก็จะนัดอ่านคำแถลงของตุลาการแต่ละคนและมีการปรึกษาหารือกันก่อนลงมติ ซึ่งตามประเพณีปฏิบัติจะลงมติในช่วงเช้าและจะอ่านคำวินิจฉัยในช่วงบ่าย
ส่วนกรณีที่มีหนังสือคำชี้แจงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หลุดออกไปนั้น นายเชาวนะ กล่าวว่า ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงสั่งให้ตรวจสอบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร พร้อมยอมรับว่า ประธานศาลรัฐธรรมนูญมีความกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเอกสารที่หลุดออกไป ถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์พาดพิงและกระทบไปถึงผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนจะเอกสารจะจริงหรือไม่ ยังยืนยันไม่ได้ พร้อมปฏิเสธ ว่า ยังไม่เห็นเอกสารหลุดของนายกรัฐมนตรีด้วย
อีกทั้ง นายเชาวนะ ยังยืนยันว่า ศาลมีความเป็นกลาง ตั้งมั่นอยู่บนความยุติธรรม และตุลาการทั้ง 9 คน มีความเป็นกลาง ดังนั้นไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ว่าตุลาการจะวินิจฉัยเรื่องนี้ออกมาอย่างไร และเมื่อตอนนี้ยังไม่เป็นที่ยุติว่าพยานหลักฐานที่มีมากพอ ที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วหรือยัง ดังนั้นจึงไกลเกินไปที่จะตัดสินว่าท่านจะวินิจฉัยอย่างไร