แม่พาลูกชาย ม.3 แจ้งความถูกเพื่อนใช้มีดฟันคอคาห้องเรียน โต้ไม่เคยบุลลีเรื่องฐานะ ด้านยายผู้บาดเจ็บเผย ทั้ง 2 เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล ชี้ทำรุนแรงเกินไป ไม่พอใจก็แค่เลิกคบ แต่อันนี้หมายชีวิต

 

วันที่ 7 ก.ย.65 นางสาวน้ำตาล พานายโอ๊บ ลูกชายชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.ปะคำ หลังจากลูกชายได้ถูกนายภูมิ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันใช้มีดฟันที่ต้นคอและแขนข้างขวา ขณะนั่งเรียนในห้อง ต่อหน้าครูและเพื่อนที่นั่งเรียนหลายคน จนบาดเจ็บสาหัส เย็บกว่า 30 เข็ม ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยนายภูมิ นักเรียนที่ก่อเหตุอ้างว่า สาเหตุที่ใช้มีดฟันนายโอ๊บ เพราะถูกบุลลีเรื่องฐานะและครอบครัวหลายครั้ง จนทำให้เก็บกด จึงกลับไปนำมีดที่บ้านมาก่อเหตุฟันเพื่อน

จากการสอบถามนายโอ๊บ นักเรียนที่ถูกฟันจนบาดเจ็บ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองไปเรียนตามปกติ แต่ขณะที่นั่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ นายภูมิก็ถือมีดเข้ามาฟันที่ต้นคอของตนเอง 1 ครั้ง โดยที่ไม่ทันตั้งตัวจนเลือดไหลอาบ และพยายามจะฟันซ้ำอีกครั้ง แต่ตนเองเอาแขนข้างขวาป้องเอาไว้ จนคมมีดไปโดนแขน ทำให้เส้นเอ็นฉีกขาด ต่อหน้าครูและเพื่อน ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมชั้น ด้านครูก็แย่งเอามีดจากมือนายภูมิไป จากนั้นนายต๋องเพื่อนอีกคนก็เอาเก้าอี้มาตีซ้ำที่ไหล่ตนเองอีกครั้ง ตนเองจึงพยายามวิ่งหนีออกจากห้อง เพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก ซึ่งช่วงที่ตนเองถูกทำร้าย นายตะวันเพื่อนสนิทของตนเองพยายามจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกนายต๋องใช้เก้าอี้ฟาดที่แขนจนกระดูกแขนร้าว จากนั้นนายตะวันจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์พาตนเองไปหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหูทำนบ แต่แผลลึก หมอจึงส่งต่อไปที่โรงพยาบาลปะคำ และส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนางรอง ส่วนนายตะวัน เพื่อนของตนเองที่ถูกเก้าอี้ฟาด แพทย์โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหูทำนบ ได้ดามเหล็กที่แขนให้ แล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้

ด้านนางสาวน้ำตาล แม่น้องโอ๊บที่บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนเองเห็นทั้งคู่เล่นด้วยกันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลย ทั้งนี้หลังมีการเสนอข่าวว่าลูกชายตนเองไปพูดบุลลีเรื่องฐานะ ก็ทำให้ลูกชายตนเองถูกสังคมต่อว่า ทั้ง ๆ ที่ลูกของตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่กลับมาถูกสังคมซ้ำเติมอีก ทั้งที่ลูกไม่ได้พูดตามอีกฝ่ายกล่าวอ้าง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรับไม่ได้และจะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านยายผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เห็นตั้งแต่อนุบาล ไม่คิดว่าจะมาทำรุนแรงขนาดนี้ ถ้าผิดใจกันควรจะใช้วิธีอื่น แต่นี่หมายเอาชีวิต

ขณะที่ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายก่อนเบื้องต้น จากนั้นจะได้ประสานทีมสหวิชาชีพสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เนื่องจากยังเป็นเยาวชน เพื่อประกอบสำนวนคดีและดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนอีกครั้ง