ครองตำแหน่ง Miss Universe Thailand ได้ครบ 1 เดือนแล้ว สำหรับ แอนนา เสื่องามเอี่ยม อีกไม่กี่เดือนก็ต้องป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด Miss Universe 2022 แล้ว เจ้าตัวเลยมาอัพเดตความพร้อม และยืนยันว่า จะนำสตอรี่นางงามกองขยะของตนเองไปสู่สายตาชาวโลกแน่นอน

ล่าสุดเพิ่งโพสต์ความรู้สึกหลังครองตำเเหน่งครบ 1 เดือนแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?

-ใช่แล้วค่ะ เพราะเวลาผ่านไปเร็วมาก ตลอดระยะเวลา 1 เดือน เรารู้สึกว่าเราไม่ได้พักเลย แต่เป็นระยะเวลาที่เราได้ทำงาน เป็นการสร้างประสบการณ์ให้เรามากๆ สร้างการเรียนรู้ให้เรา เพื่อที่จะเตรียมไปสู้ศึกคว้ามง 3 ในครั้งนี้

 

ได้เก็บประสบการณ์ไปเยอะไหม?

-ก็เรียกว่าดีใจมาก ก็คือยังมีความดีใจไม่หายอยู่ตลอด เพราะระยะเวลา 1 เดือนที่เราเก็บประสบการณ์มา เหมือนจะอิ่มนะ แต่เรื่องจริงเราก็ยังไม่อิ่มนะคะ เพราะเราเชื่อว่าในอนาคตเรายังจะสามารถเก็บประสบการณ์อื่นๆ ได้อีก ก็อยากจะขอพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ

 

ความพร้อมตอนนี้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมอะไรบ้าง?

-ก็เรียกว่าตอนนี้ได้เรียนรู้ทุกวันทุกครั้งที่เวลาเราออกงาน อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นการเทรนไปในตัวด้วย และหลายคนจะชอบถามว่ามีความพร้อมกี่เปอร์เซ็นต์เเล้ว เราก็จะบอกว่าไม่อยากจะตีเป็นตัวเลขเพราะทุกวันเราต้องดีกว่าเมื่อวานเสมอ และก็จะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้ารู้ตัวอีกทีหนึ่งอาจจะเกิน 100% ไปแล้วก็ได้

 

ในโซเชียลแฟนคลับจะคอยซัปพอร์ตเยอะมาก?

-ก็คือเรียกว่าดีใจมาก เพราะทุกอย่างอีเวนท์ทุกกิจกรรม จะมีแฟนๆ ก็จะไปให้กำลังใจตลอด ก็ขอขอบคุณทุกคนมากๆ ทุกกำลังใจจากทุกคนก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้เราได้ทำกิจกรรมต่างๆ ออกมาดีด้วย

 

ได้เห็นโพลที่มีเราติดในในกระเเสต่างประเทศบ้างไหม?

-ก็ดูข่าวอยู่นะคะ ที่มีเราอยู่ในโพลจากต่างประเทศ ก็จะมีแฟนๆ ติดแท็กมาให้เราในโซเชียล เราก็เลยรู้สึกดีใจที่ทุกคนทั้งในประเทศและต่างประเทศเห็นศักยภาพของเรา ก็เรียกว่าเราจะไม่ให้มันติดแค่ในโพลนะคะ แต่จะให้มันเกิดขึ้นในอนาคตของเราจริงๆ

 

ได้มีพูดคุยกับเพื่อนต่างชาติที่เป็นคู่แข่งบ้างไหม?

-ก็มีแบบว่าไปคอมเมนต์ตามรูปกันบ้าง แบบว่าเป็นการเสริมพลังบวกให้กันและกัน ก็คือเป็นการเริ่มต้นของมิตรภาพอันดีงาม ถ้ายิ่งใกล้ระยะเวลาของการประกวดหรือว่าอยู่ในกองเราจะได้พูดคุยกันได้ง่ายขึ้น เพราะว่าการเตรียมตัวของเราพัฒนาไปเรื่อยๆ รับรองว่าไม่ต้องห่วงแน่นอน เราจะทำให้เต็มที่ที่สุด อยากจะให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้เราในทุกๆ เรื่องด้วยนะคะ

 

หลายคนบอกว่าอยากให้ปรับลุคในหลายๆ เเบบเราพร้อมที่จะทำไหม?

-จริงๆ ไม่ใช่ว่าเราอยากจะปรับลุคเพราะว่าทุกคนบอกเรานะ แต่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องทำเองด้วย เพราะว่าการที่เราไปอยู่บนเวทีแล้วนั้นมันไม่ใช่แค่เป็นตัวเรา แต่มันต้องเป็นตัวเราที่เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุด แล้วก็ต้องหาลุคให้เข้ากับเรามากที่สุด เเละการได้ออกอีเวนท์บ่อยๆ มันถือเป็นการเทรนด์ไปในตัว แล้วก็เป็นการหาลุคที่ใช่ให้เหมาะกับเราด้วย เพราะถ้าถึงวันนั้นแล้วอาจจะเป็นลุคที่ทุกคนเห็นแล้วต้องร้องว้าวมากก็ได้

 

ได้มีการคุยกับทีมหรือวางเเผนบ้างหรือยัง?

-ก็มีการคุยไปเรื่อยๆ นะคะ แต่ก็เป็นไปตามแต่ละอีเวนต์ ในส่วนของลุคออกงานนะคะ เพราะถ้าวันนี้หน้าผมแบบนี้ไม่โอเคครั้งต่อไปเราก็จะต้องพัฒนาเเก้ไขให้ดีขึ้น

 

จะถูกชื่นชมตลอดเวลาโดนติ เเล้วมักจะเอาไปแก้ไขเสมอ?

-คือเราต้องบอกว่าเรารับฟังและแก้ไขตลอด เพราะมันไม่ใช่แค่ตัวเราอย่างเดียว เพราะมันการเป็นตัวแทนของทุกคนเลย ทุกคำที่บอกมามันเป็นประโยชน์กับเรา เเละก็จะรับไว้หมดแล้วก็จะเอาไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองตามที่ทุกคนแนะนำมา

 

ในส่วนของเรื่องสตอรี่ คือยังยืนหยัดตามเดิมใช่ไหม?

-ก็ยังยืนหยัดเหมือนเดิม เพราะสตอรี่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตเรา ซึ่งมาถึงจุดนี้ได้เพราะเราสามารถที่จะนำสตอรี่มาเล่าเรื่องและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้ เราก็จะนำสิ่งนี้ไปนำเสนอให้กับคนทั่วโลกได้รู้ และมันก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่จะพาเราไปคว้ามง 3 เพราะต้องการสร้าง inspiration ให้กับทุกคนบนโลกด้วย ว่านี่คือสิ่งที่เราอยากจะทำให้ทุกคนเห็น

 

มีวิธีจัดการ Mindset ตัวเองกับกระแสโซเชียลที่ดรามายังไงบ้าง?

-คือ Mindset ของเรานั้น จะบอกว่าไม่มีใครที่จะรู้เท่าตัวเราเองที่รู้ดีที่สุด ต้องนำทุกคำวิจารณ์แล้วมากลั่นกรองว่าถ้ามันจริงและพัฒนาได้ต่อไหม ถึงจะเก็บมันมา แต่ถ้าคำวิจารณ์มันเป็นสิ่งไม่ดีเราก็ทิ้งมันไป เพราะว่ามันไม่มีใครอยู่กับเราได้นานที่สุดนอกจากตัวเราเอง เพราะฉะนั้นตนยึดมั่นและเชื่อมั่นในพลังของเราเองได้ ไม่ว่าคุณจะเจออะไรก็ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองว่าคุณทำได้ แล้วก็คำวิจารณ์ที่ไม่ดีให้ทิ้งไป เรามีสิทธิ์เลือกที่จะเก็บสิ่งดีๆ คำดีๆ เข้ามาในชีวิตเราได้ เรียกว่าทุกดราม่าเราเอาอยู่นะคะ แต่ก็ไม่ได้อยากจะเจอดราม่าบ่อยๆ (หัวเราะ) ขอสัญญาว่าเราจะทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ