เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันกว่า 40,000 ลิตร พลิกคว่ำกลางถนน ทำให้น้ำมันไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้านเจ้าหน้าที่เร่งนำทรายมาเททับไว้ หวั่นเกิดเพลิงไหม้ ส่วนคนขับเล่านาทีรอดตาย
วันที่ 13 ก.ย. 65 เมื่อเวลา 05.45 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยภูนกยูง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำบนเกาะกลางถนน 217 ช่วงเนินที่จะขึ้นวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ก่อนที่จะถึงด่านชายแดนช่องเม็ก ประมาณ 2 กิโลเมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช่องเม็ก พร้อมรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลช่องเม็กเข้าตรวจสอบพื้นที่
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นรถบรรทุกน้ำมันกึ่งพ่วง 18 ล้อ โดยบรรทุกน้ำมันดีเซล จำนวน 40,000 ลิตร ในสภาพตัวถังน้ำมันคว่ำ ล้อชี้ฟ้า ส่วนตัวรถยังติดอยู่กับถังน้ำมัน มีรูรั่วทำให้น้ำมันไหลออกมาบริเวณถนนอย่างต่อเนื่อง ด้านเจ้าหน้าที่จึงได้นำทรายจำนวน 10 คิว มาเททับน้ำมันที่ไหลออกจากตัวถังน้ำมันไว้ เพื่อไม่ให้น้ำมันไหลลงเขื่อนสิรินธร ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังประสานรถยกเพื่อมาเก็บกู้น้ำมันอย่างเร่งด่วน เนื่องจากน้ำมันที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องอาจเกิดทำให้เปลวไฟได้
ด้านนายไพวัลย์ จุลโทก อายุ 49 ปี คนขับรถน้ำมันคันเกิดเหตุ เล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า เมื่อประมาณ เวลา 05.00 น. ของวันนี้ (13 ก.ย. 65) ตนเองกำลังขับรถน้ำมันเพื่อจะนำไปส่งที่ สปป.ลาว ระหว่างมาถึงที่เกิดเหตุ รถเกิดตกหลุมบนถนนทำให้ตัวรถกระเด็นขึ้น จากนั้นตัวล็อกระหว่างรถลากกับถังน้ำมันจึงหลุดออก ทำให้ถังไหลลงเนินแล้วดึงตัวรถลงไปด้วย โดยหัวรถลากถูกยกชี้ฟ้า ตอนนั้นตนเองพยายามตั้งสติว่าจะกระโดดออกจากรถหรือไม่ แต่ตัดสินใจพยายามหักพวงมาลัยให้ไปชนกับเสาไฟฟ้าที่เกาะกลางถนน เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นรถจะตกเหวลึกที่ข้างทาง ซึ่งอาจจะมีความเสียหายมากกว่า ตอนนั้นบอกกับตัวเองว่า "ตายเป็นตาย" ซึ่งหลังจากถังพลิกคว่ำแล้ว รถหยุดนิ่ง โชคดีที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ทั้งนี้ตนเองขับรถขนส่งน้ำมันมาแล้วกว่า 30 ปี และใช้เส้นทางนี้ขนส่งไปที่ สปป.ลาว เป็นประจำ แต่มาเกิดเหตุดังกล่าวเนื่องจากถนนชำรุด