เปิดใจ "น้องบอส" ฮีโร่ชุดนักเรียน กระโดดเข้าช่วยคนโดนไฟดูด เผย ขับรถผ่านเห็นน้องจมน้ำอยู่ไม่มีใครไปช่วย ตอนแรกนึกว่าเป็นตะคริว พอรู้ว่าไฟชอร์ต กระโดดเกาะรั้วแทบไม่ทัน โชคดีเรียนวิธี "ปั๊มหัวใจ" มาจากเรียน รด. จึงช่วยน้องได้ทันเวลา เพราะหัวใจน้องหยุดเต้นแล้ว
วันที่ 17 ก.ย. 65 สืบเนื่องจากกรณีที่เพจข่าวอุดร ข่าวโฮมเคเบิ้ล ได้โพสต์ตามหาฮีโร่ชุดนักเรียน จนทราบชื่อคือ "น้องบอส" เด็ก ม.5 ช่วยปั๊มหัวใจเด็กนักเรียนที่โดนไฟดูดและจมน้ำ ก่อนน้องผู้หญิงจะกลับมามีสติ งานนี้ชาวเน็ตชื่นชมในความกล้าหาญ
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน้องบอส นายปรัชญา ใจบุญ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งได้ช่วยปั๊มหัวใจนางสาวจิดาภา เปรมปรีดิ์ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ซึ่งโดนไฟดูดบริเวณประตูหลังโรงเรียนจุดเดียวกับน้องโซดา เด็กชายชยุต เลยชัยภูมิ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล โดนไฟดูด
น้องบอส เล่าว่า ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน มาทางหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ เห็นน้องจมนอนจมน้ำ และมีคนยืนดูอยู่ห่าง ๆ ไม่มีคนเข้าไปช่วย ตนเองจึงดับเครื่องยนต์ แล้วเดินเข้าไปช่วยกับพี่อีก 1 คน ครั้งแรกนึกว่าเป็นตะคริว เพราะน้องมือแข็ง แต่พบว่าหัวใจน้องไม่เต้น ตาค้าง เลือดออกปาก จึงปั๊มหัวใจให้น้อง เพราะถ้าหัวใจหยุดเต้นเกิน 4 นาที ก็จะเสียชีวิต จนน้องได้สติและพูดคำแรกว่าแม่ พร้อมกับมีน้ำตาไหลออกมา โดยตนเองไม่รู้ว่าไฟชอร์ต แต่พอมีคนมาบอกว่าน้องโดนไฟชอร์ต ตนเองก็กระโดดขึ้นรั้วเลย แต่ถ้ารู้ก่อนว่าไฟชอร์ต ตนเองก็ยืนยันยังจะช่วยเหมือนเดิม เพียงแต่จะหาไม้มาเขี่ยน้องออกจากจุดอันตราย ทั้งนี้ตนเองได้เรียนการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตที่โรงเรียนและขณะเรียน รด. และเป็นครั้งแรกที่ได้ช่วยชีวิตคน
"รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ช่วยชีวิตคนได้ ถ้าน้ำท่วมอย่าไปใกล้เสาไฟ อย่าเอามือไปจับเพราะไฟอาจจะรั่ว ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจและชื่นชม ที่ช่วยน้องก็ไม่ได้หวังผลอะไร แค่อยากช่วยให้น้องรอดเท่านั้น ฝากบอกน้องให้หายไว ๆ ต่อไปเวลาน้ำท่วมให้ระมัดระวังอย่างไปใกล้เสาไฟ" น้องบอส กล่าว
ส่วนนางกัลยา ใจบุญ อายุ 46 ปี แม่ของน้องบอส เปิดเผยว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าน้องจะเป็นฮีโร่ แต่น้องบอสมาเล่าให้ฟังว่าช่วยเด็กจมน้ำ ก็บอกว่าดีแล้วที่ช่วยน้อง ถ้าไม่ได้ไปช่วยน้องจะเป็นอย่างไร และสอบถามอาการน้องว่าเป็นอย่างไร ไม่ได้หวังอะไรเลย สงสารน้องเขา เพราะคิดว่าถ้าเป็นลูกเราจะเป็นอย่างไร แต่เตือนว่าคราวหลังให้ระวังมากกว่านี้ เวลาเข้าไปช่วยต้องรู้ว่าคืออะไร อย่างไรก็ตาม รู้สึกภูมิใจที่ลูกกล้าเข้าไปช่วยคน น้องจะได้มีชีวิตต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า คุณแม่ของนางสาวจิดาภา ได้โทรศัพท์มาขอบคุณน้องบอส ที่ได้ช่วยชีวิตลูกสาวเอาไว้ ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้ว และจะพาน้องมาขอบคุณด้วยตัวเองอีกครั้ง