เวทีเสวนา 30 ก.ย. นับหนึ่งประเทศไทย รุมสับ "บิ๊กตู่" เป็นยาหมดอายุ ด้าน "อดีต กรธ." เชื่อ "บิ๊กตู่ไป-บิ๊กป้อมมา" ปัญหาไม่จบ ผลออกทางไหน อำนาจก็ไม่ใช่ของประชาชน
วันที่ 18 ก.ย. 2565 คณะหลอมรวมประชาชน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ จัดเสวนา "นับหนึ่งประเทศไทย ด้วยอธิปไตยของปวงชน หลัง 30 กันยายน" ซึ่งเชิญนักวิชาการมาร่วมเสวนา อย่างนายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 30 ก.ย.นี้ ไม่ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบใด ต้องมีคนไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ต้องมาดูต่อว่า สุดท้ายแล้วอำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของใครต่อไป ยกตัวอย่าง หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาดจากการเป็นนายกฯ แต่ปัญหาอธิปไตยของปวงชนก็ไม่จบ เพราะต้องเลือกนายกฯ ใหม่จากบัญชีที่มีอยู่ ซึ่งอำนาจเหล่านี้ก็ไปตกอยู่ในสภาอยู่ดี ซึ่งสภาอาจจะเลือกเป็นคนนอก คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อำนาจอธิปไตยก็ไม่ได้กลับมาเป็นของประชาชนอยู่ดี
นายเจษฎ์ ยังขยายความเรื่องเลือกนายกฯ คนใหม่ว่า มีแนวโน้มสูงมากที่ สว. รวมกับเสียงข้างมากอาจจะไม่เลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหากเลือกนายอนุทินอาจจะดูไม่เหมาะสม แต่เหมาะในด้านของผู้ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้ เพราะเป็น สส. มีพรรคการเมือง และมาจากการเลือกตั้ง แต่หากไม่เลือกนายอนุทิน แต่ไปเลือกนายกฯ คนนอก เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปัญหาก็ไม่จบ เพราะยังอยู่ในอำนาจ 3 ป. เป็นการสืบทอดอำนาจ
นายเจษฎ์ ยังแสดงความเป็นห่วง การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนต้องระวัง เพราะทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะหากเกิดความรุนแรงจะมีคนได้รับผลลัพธ์ สุดท้ายกลายเป็นเอาคนกลุ่มหนึ่งออกไปได้ แล้วได้คนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามา เหมือนพลวัตปี 19 นำมาสู่เหตุการณ์ปี 35 เหตุการณ์ปี 35 ก็นำมาสู่ปี 49 สิ่งที่เกิดขึ้นปี 49 นำมาซึ่งปี 57 นั่นเท่ากับว่าทุกครั้งที่มีการชุมนุมและเกิดความรุนแรง จะมีคนคอยตีกินอยู่ ดังนั้นทำอย่างไรให้พลังยังคงอยู่ อยู่ในมือประชาชนแท้จริง อย่าให้มีการตีกินอีกรอบ
ทางด้านนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรปริญญาเอกสาขาการเมือง และยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า วันนี้อำนาจอธิปไตยของปวงชนถูกกักขังไว้ในกรง แม้เจ้าของกรงอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะหลุดไปจากอำนาจ แต่ยังมีอีก "2 ป." อยู่ใช้กลไก เพราะฉะนั้นทางเดียวคือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยประชาชน แต่เขาก็มีกลไก ขัดขวางคือ สว.
แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุด วันนี้ คือ คนที่เราเลือกเข้าไป พรรคการเมืองบางพรรคไปสมคบกับ สว.กักขังอำนาจอธิปไตยปวงชนเอาไว้ "หลังจากนี้ไปพรรคร่วมรัฐบาลการทำงานคงคาดหวังไม่ได้ เพราะรอเวลาที่ยุบสภา แล้วจะเห็นจากปัญหาพรรคภูมิใจไทย เรื่องกัญชา และวันนี้ถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในสมการทางการเมืองแล้ว นับจากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ วันนี้สภาพเหมือนยาหมดอายุ"
ขณะที่ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ผลวินิจฉัย 8 ปี นายกรัฐมนตรี จะต้องยึดเอาความสงบทางการเมืองและทางออกประเทศเป็นหลัก เพราะ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหาหลายอย่างมากมาย ทั้งเลี้ยงความขัดแย้งในสังคมจากแนวราบมาเป็นแนวดิ่ง ซึ่งลึกลงเรื่อยๆ เอาคนทำงานเน้นความน่าไว้วางใจ ซื่อสัตย์ และพรรคพวกของตัวเอง แต่ไม่ได้เน้นความสามารถ เป็น 8 ปีที่ปิดประตูไม่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เสนอนโยบายหรือสะท้อนปัญหา เพราะท่านอยู่ใน "คอหอย งาช้างเลี่ยมทอง" ที่ลอยสูงอยู่ในอากาศ ท่านมีลีลาศ แสดงอาการรำ เสมือนว่าจะปฏิรูป แต่ผ่านไป 8 ปี ไม่เห็นจะเกิดสักอย่าง