สาวนั่งรถตู้บริษัทมาเบิกเงิน 3.5 ล้านบาทที่ธนาคาร เพื่อไปจ่ายค่าแรงพนักงาน แต่ถูกคนร้ายสวมชุดไรเดอร์สีเขียว ทำทีตะโกนทะเลาะกับคนขับรถตู้ว่าแย่งเมียแล้วไล่ชกต่อย ก่อนกลับมาฉกกระเป๋าที่ใส่เงินสดกว่า 3.4 ล้านบาทหนีไป
วันที่ 20 ก.ย. 2565 เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อคลุมไรเดอร์สีเขียว จี้ชิงทรัพย์ภายในซอยราษฎร์อุทิศ ด้านหลังธนาคารไทยพาณิชย์ เขตเทศบาลเมืองบ้านบึง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจ สภ.บ้านบึง ได้เข้าตรวจสอบพบนางสาวประภาพร อายุ 29 ปี ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุได้มาเบิกเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อจะนำไปจ่ายเป็นค่าแรงให้กับพนักงานเดือนละ 2 ครั้งเป็นประจำ โดยมีนายกฤษชภัชร์ อายุ 24 ปี เป็นคนขับรถตู้ โดยได้จอดรถไว้ที่จุดเกิดเหตุ แล้วเดินเข้าไปในธนาคาร เพื่อเบิกเงินจำนวนเงิน 3,500,000 บาท
หลังจากเบิกเงินเสร็จได้เดินกลับมาที่รถ โดยนายกฤษชวัชร์ เป็นคนถือกระเป๋าเป้ใส่เงินสด จำนวน 3,460,000 บาทส่วน ส่วนตนเองได้นำธนบัตรฉบับละ 20 บาท และฉบับละ 100 บาท รวมกันเป็นเงิน 40,000 บาท ใส่ในกระเป๋าถือสีดำ
ขณะเดินกลับมาที่รถตู้ เปิดประตูหน้าฝั่งผู้โดยสาร เห็นคนขับวางกระเป๋าเป้ใส่เงินไว้ด้านใน จากนั้นมีชายสวมชุดไรเดอร์สีเขียว เปิดประตูพร้อมกับตะโกนต่อว่าคนขับรถ ทำนองว่า "มึงแย่งแฟนกู" แล้วก็ชกต่อยกัน โดยคนร้ายบอกว่า "กูมีปืน" ทำให้คนขับรถตู้วิ่งหนีออกจากรถเข้าไปในซอย แล้วคนร้ายก็วิ่งไล่ตามไป ต่อมาคนร้ายได้ย้อนกลับมา ขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์แล้วคว้าเอากระเป๋าเป้ที่ใส่เงินสด 3.46 ล้านบาท ที่อยู่ภายในรถหลบหนีไป ซึ่งเธอพยายามแย่งกระเป๋าคืน แต่แย่งไม่ได้ จากนั้นคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป
ความคืบหน้าล่าสุด พลตำรวจตรี อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านบึง สืบสวนจังหวัด และสืบสวนภาค2 โดยได้เน้นแยกสอบตนขับรถ พนักงานคนที่เบิกเงิน และได้เชิญผู้จัดการบริษัทและพนักงานด้านการเงินมาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยในบางประเด็น โดยพลตำรวจตรีอิทธิพร เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตำรวจกำลังเร่งกันสืบสวนในหลายๆ ประเด็น โดยอยากที่จะฝากถึงบริษัทร้านค้าว่า หากมีการมาเบิกเงินครั้งละมากๆ ควรที่จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อคอยอำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุ ซึ่งคดีนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ คาดว่าน่าจะได้ตัวหรือรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับคดีเร็วๆ นี้