"ศรีริต้า-กรณ์" เคลียร์ดรามา...หลังโดนชาวเน็ตแซะ แจงเลี้ยงลูกติดดิน ไม่ได้หมายถึงไปเล่นกับดินกินกับทราย
หลังจากที่นักแสดงสาว "ริต้า ศรีริต้า" เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองการเลี้ยงลูกชาย "น้องกวิณท์" ว่าเลี้ยงลูกแบบติดดิน จนโดนชาวเน็ตแซะกลายเป็นดรามาถกกันสนั่นในโลกโซเชียล ล่าสุด ริต้าควงสามี "กรณ์ ณรงค์เดช" ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า
ถามถึงเรื่องดรามาประเด็น เลี้ยงลูกติดดิน?
ริต้า : จริงๆ เราก็พูดค่อนข้างยาวนะคะ (หัวเราะ) เราก็พูดอะไรหลายอย่าง แล้วก็อธิบายไป ไม่ได้สร้างภาพอะไร พูดจากใจออกไป ในความหมายของเราจริงๆ มันก็คือคำว่า “Down to Earth” หมายถึง “เราต้องมีสัมมาคารวะ ถ่อมเนื้อถ่อมตัว” แบบสวัสดีทุกคนไม่ว่าไปเจอใครก็ตาม ที่จะรู้จักหรือไม่รู้จัก สิ่งพวกนี้เราอยากปลูกฝังเขามากๆ แล้วก็ไม่ไปขีดจำกัดเขา อยากให้เขาได้ผจญภัยในโลกกว้าง แต่เราก็คิดว่ามีคนเอาแค่คำๆเดียวมาพูดถึง
กรณ์ : จริงๆ อย่างที่บอกว่าติดดินของเราหมายถึง “Down to Earth” เขาสามารถเจอทุกคน ไปมาลาไหว้ คงไม่ได้หมายถึงไปเล่นกับดินกินกับทรายขนาดนั้น แต่ว่าคือเราในฐานะพ่อแม่และเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก
ริต้า : แต่เราก็เข้าใจนะคะ ในมุมมองคนอื่นที่มองเข้ามา แล้วก็รู้สึกว่าติดดินตรงไหนของเธอ แต่ว่าก็ขอบคุณแล้วกันนะคะในทุกคอมเมนต์ ยังไงเราก็รู้สึกว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีที่ยังนึกถึงพวกเราอยู่
แสดงว่าได้เข้าไปตามอ่านคอมเมนต์ใช่มั้ย?
ริต้า : บางทีเพื่อนๆ ก็ส่งมาบ้าง เราก็ขอบคุณที่นึกถึงเรา โอเคเราอาจจะหมายถึงคำว่า Down to Earth อย่างตัวเราเองกว่าจะมีทุกวันนี้ได้ เพราะเราก็ทำงานมาตั้งแต่อายุ 13 เราก็อยากให้เขาได้เรียนรู้ตรงนี้ด้วยว่าทุกอย่างมันไม่ได้มาง่ายๆ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะอยู่ดีกินดี แต่ว่าเขาต้องรู้จักแบ่งปัน
เสียใจมั้ย ที่โดนคอมเมนต์แซะและถล่มแบบนั้น?
ริต้า : ไม่เลย จริงๆ เราอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เด็ก เจอมาหลากหลายรูปแบบแล้วแหละ เรามองว่าเป็นนานาจิตตังมากกว่า ทุกคนสามารถคอมเมนต์ได้แล้วแต่มุมมอง และก็มีคนที่เขาเข้าใจเราด้วยนะคะ ที่เข้ามาเขียนว่ามันหมายถึงยังไง อันนี้ก็ต้องขอบคุณมากๆ เลยค่ะ แต่สุดท้ายแล้วเราก็อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของเรานั่นแหละ
ตอนนี้พัฒนาการลูกชายเป็นยังไงบ้าง?
ริต้า : ตอนนี้ก็เกือบจะขวบครึ่งแล้ว เขาก็จะเรียกชื่อพ่อแม่ได้แล้ว เรียกชื่อหลายๆ คนในบ้านได้หมด รวมถึงชื่อสัตว์ต่างๆ เริ่มนับเลข 123 ได้แล้ว ส่วนเรื่องความซนตอนนี้ก็เดินเก่ง คือต้องวิ่งจับตลอดเลย
กรณ์ : ตอนนี้ห้องเราไม่มีเฟอร์นิเจอร์แล้วครับ อะไรที่เป็นมุมแหลมๆ เราต้องเก็บออกหมด เพราะว่าเขาจะชอบปีน
ริต้า : ความที่เราไม่อยากไปห้ามเขาตลอด เราก็เลยเลือกที่จะเก็บไปเลย เขาจะได้วิ่งได้เต็มที่ จริงๆ พอเขายิ่งโตขึ้นก็เป็นอะไรที่สนุกมากเลยทุกโมเมนต์ ตัวเราไม่เคยคิดเลยว่าการเลี้ยงลูกมันเติมเต็มขนาดนี้ แล้วยิ่งเราได้เห็นพัฒนาการเขาทุกวันเรายิ่งรู้สึกว้าวในทุกโมเมนต์ของเขาเลย
ล่าสุดก็ทำโครงการให้ “น้องกวิณท์” ด้วยใช่มั้ย?
ริต้า : ใช่ค่ะ โครงการ Gavin Foundation เราทำมา 1 ปีแล้ว คือเราเอาของใช้ของน้องทั้งหมดเลยที่ใส่ไม่ได้ รวมถึงของอีกหลายอย่างที่ยังไม่เคยใช้ ด้วยความที่น้องอาจจะมีคนเมตตาเขาก็จะส่งของมาให้เขาเยอะ เราก็เอามาบอกต่อขายต่อ แล้วก็เอาเงินของเราสมทบทุนเข้าไปด้วย มอบเป็นทุนการศึกษาให้กับผู้ยากไร้บ้าง แล้วก็ซื้ออุปกรณ์การเรียนต่างๆ ซึ่งเราก็ทำมาหลายครั้งแล้ว และล่าสุดก็ได้พาเขาไปมอบด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นครั้งแรกเลย
กรณ์ : แน่นอนว่าอยากปลูกฝังเขาเรื่องนี้ เพราะว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการได้เห็น อยากให้เขาได้เห็นว่าบางทีหลายๆ อย่างที่เขามีโอกาสได้มีของเล่น ได้มีโน่นมีนี่ ทุกอย่างมันไม่ได้หล่นมาจากฟ้า อยากให้เขาเรียนรู้ว่ามันอาจจะมีคนที่โชคดีน้อยกว่าเขา เลยอยากให้เขาเห็นและรู้จักแบ่งปัน ไม่อยากให้เขาเป็นคนหวงของด้วย ที่สำคัญคืออยากให้รู้ว่าทุกอย่างในชีวิตมันไม่ได้ได้อะไรมาง่ายๆ