"แอฟ ทักษอร" ไขข้อสงสัย "หม่อมน้อย" ไม่คิดค่าสอนการเเสดงเพราะอะไร?

นักแสดงสาว "แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" ได้ออกมาเล่าถึงความผูกพันกับ "หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล" หรือ "หม่อมน้อย" อาจารย์ด้านการแสดงที่สำคัญคนหนึ่งของเมืองไทย และไขข้อสงสัยว่า "หม่อมน้อย" ไม่คิดค่าสอนการเเสดงด้วยเหตุผลนี้

เผยความผูกพันกับ "หม่อมน้อย" เห็นว่าท่านไม่คิดค่าเรียนการแสดงเลยจริงไหม?
- ใช่ค่ะ อันนี้คือตามที่เขียนไปในไอจีเลย ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้สึกว่ามันก็เป็นสิ่งที่เป็นความจริงที่อยู่กับตัวเรามาตลอด ประมาณ 15 ปี ที่เราเขียนไปก็เป็นจุดที่หลาย ๆ คนไม่ทราบ เพราะคนก็มาถามว่าจริงเหรอ "หม่อมน้อย" ไม่ได้คิดเงินจริง ๆ เหรอ คือใช่ค่ะ ไม่เคยเลย ยืนยันได้เลยร้อยเปอร์เซ็นต์ สักบาทเดียวก็ไม่เคยจะต้องให้ท่านเลย แล้วแถมยังเลี้ยงข้าวอีก ไม่ได้ซื้อเลี้ยงนะ ทำให้ทานเลย มันจะมีอะไรไปมากกว่านี้ ที่อาจารย์ให้ความรู้ลูกศิษย์คนนึง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านการแสดง ความรู้ในการใช้ชีวิต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอยู่กับหม่อมจะมีเรื่องของปรัชญาเยอะมากค่ะ แล้วก็ไม่เสียเงิน

เคยบอกให้ท่านคิดเงินเราไหม?
- บอกตลอดค่ะ โดยเฉพาะในเวลาที่เราไม่ได้ไปในแง่ของโปรเจกต์ คือถ้าเกิดเราไปเนื่องด้วยโปรเจกต์ใครสักคน อันนี้เราก็เข้าใจว่าเขาอาจจะมีการดูแลกัน แต่นี่เราก็ไปในฐานะหนึ่งในทีม อันนี้มันก็ดูจะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ปกติ แต่เราเคยมีค่ะ ที่ไปเล่นละครของคนอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลยแต่ว่าเรามีปัญหา รู้สึกไม่มั่นใจ อยากเข้ามาทบทวน หม่อมก็บอกมาเลย คือท่านเต็มที่มาก ๆ ไม่ได้สนใจว่าลูกศิษย์จะไปทำงานอะไรต่อ หมายถึงว่าสำหรับท่านแล้ว อยากให้ลูกศิษย์มีความรู้ มีวิชาติดตัวไป แต่วิชานี้จะเอาไปใช้กับใครยังไงก็ได้

ทำไมหม่อมท่านถึงไม่คิดเงินเลย?
- ท่านบอกว่าไม่ได้อยากได้เงิน ไม่ได้อยากรวย ไม่ได้จะมาหากำไร ณ ตรงนี้เลย ซึ่งทุกคนก็คงเห็นอยู่แล้ว ว่าความเป็น "หม่อมน้อย" จะสมถะมาก คือในหัวท่านมีแต่เรื่องงาน เรื่องวงการภาพยนตร์ไทย เรื่องลูกศิษย์ เรื่องของการแสดง ไม่มีอย่างอื่น ไม่มีของใช้ฟุ่มเฟือยใด ๆ คือก็แค่อยู่ใช้ชีวิตไปค่ะ

และกับเรื่อง "มายาพิศวง" เป็นเรื่องที่ได้มาเล่นหนังของท่าน สอนเราอย่างไรบ้าง?
- ในด้านความรู้ทางการแสดงก็อาจจะเป็นในรูปแบบของหม่อมเหมือนเดิม แต่สำหรับเราแปลกใหม่มาก คือในด้านของการเวิร์กช็อป เพราะมันเป็นงานแรก ที่ได้ร่วมงานในฐานะนักแสดงเต็มตัว เลยเป็นครั้งแรกที่เราได้เวิร์กช็อปเพื่อการถ่ายทำจริง ๆ ก่อนหน้านี้มันเป็นการเรียนการแสดงเฉย ๆ ก็อาจจะยังไม่ได้เข้มข้นขนาดนี้

เคยโดนท่านโดนดุบ้างไหม?
- ไม่เหลือค่ะ อันนี้พูดได้เลย เพราะว่าช่วงหลังที่ได้เข้าไปเยี่ยม หม่อมก็บอกว่าถ้าใครถาม บอกไปได้เลยว่าดุ ยอมรับไปตามตรงเลยว่าเคยโดนดุจริง แต่ให้บอกว่าเคยโดนดุแล้วผลออกมาเป็นยังไง การที่เคี่ยวเข็ญสุดท้ายแล้วมันออกมาเป็นยังไง เพื่อผลงานที่ดี ต้องยอมรับว่าเข้มข้นจริง ๆ อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ มันไม่ได้สวยงามไปซะหมด

ช่วงเวลาที่ได้ทำงานกับท่านเป็นอย่างไรบ้าง?
- มันจะมีทั้งช่วงที่เรามีความสุขกัน หัวเราะกัน แล้วมันก็มีช่วงที่เสียน้ำตาด้วยเช่นกัน หม่อมเหมือนจะให้กำลังใจและเป็นการขู่ไปด้วยในตัว ว่าการทำเวิร์กช็อปเรื่องนี้ เหมือนเราเรียนมหาวิทยาลัย แต่ไม่ใช่หลักสูตรปริญญาตรี คือหลักสูตรที่สูงกว่านั้น ระหว่างที่ทำเวิร์กช็อปเหมือนการเรียนอย่างเข้มข้น เมื่อถึงวันถ่ายทำจริง อันนั้นคือวันสอบ แปลว่าคุณไม่มีสิทธิ์เทสต์ตัวเอง ยังไงก็ยังงั้น ใครผ่านใครล่วงก็ตามนั้น เพราะถือว่าเราเคี่ยวเข็ญมาด้วยกัน ถึงวันสอบขอให้เต็มที่ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ วันถ่ายทำนี่ตื่นเต้นใจเต้น อยู่กับหม่อมเเล้วรู้สึกเหมือนเป็นนักแสดงใหม่เสมอค่ะ เราไม่กล้ามีตัวตนขึ้นมาเลย ว่าเรามีประสบการณ์ที่ดีมาก

มีคำสอนไหนบ้าง ที่จำไว้ตลอดชีวิตของเรา?
- จริง ๆ แล้วเยอะมากเลยค่ะ แต่ว่าหนึ่งอย่างที่หม่อมย้ำเสมอ คือเรื่องของการแสดง ถ้าเราจะยึดอาชีพนักแสดงแล้ว ขอให้เราเชื่อและปฏิบัติตามนั้น การแสดงคือเรื่องศักดิ์สิทธิ์ หม่อมพูดบ่อยมาก อย่ามาทำเล่นๆ ทำตรงนี้ ต้องรักต้องซื่อสัตย์ ให้เกียรติ และทุ่มเทกับอาชีพนักแสดงจริงๆ หม่อมย้ำเสมอ เราต้องเห็นความแตกต่างระหว่างการเป็นดารากับนักแสดง เพราะฉะนั้นถ้าคุณเชื่อว่าการแสดงว่าศักดิ์สิทธิ์จริง คุณอยากจะทำเป็นอาชีพจริง ๆ คุณต้องแลกมาด้วยอะไร การทุ่มเทการซ้อมอย่างหนัก เราไม่เคยคิดว่าเราจะต้องซ้อมเยอะขนาดนี้มาก่อน หม่อมทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราทุ่มเทและซ้อมกันมา ในวันที่ถ่ายทำมันทำให้ทุกอย่างลื่นไหลไปได้จริง ๆ