"แพรรี่" โพสต์เดือดถึง "ลุงครึ่งพระครึ่งฆราวาส" ลั่นคนศีลเสมอกัน มันจึงอยู่ด้วยกันได้ ชี้ไม่อยากลู่กับกระเบื้อง แฉมีหลักฐานประพฤติอนาจารพระอลัชชี มาขอดูได้
วันที่ 24 ก.ย. 65 เคลื่อนไหวต่อเนื่องสำหรับ "แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร" หลังจากเป็นประเด็นดุเดือดบนโลกออนไลน์ สืบเนื่องจากกรณีที่ "พระชาตรี" ไลฟ์บนเฟซบุ๊ก ก่อนกล่าวพาดพิงถึง "แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร" ในทำนองต่อว่าติเตียน รวมทั้งมองว่าพฤติกรรมของแพรรี่ เป็นการดิสเครดิตพระพุทธศาสนา
ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ "พุทธะอิสระ" ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นดังกล่าว โดยชี้แนะ "พระชาตรี " ว่า "อย่าเอาไม้สั้นไปรันขี้" บอกท่านเดินในเส้นทางแห่งวิถีพุทธ อย่าลดตนเองลงมาเกลือกกลั้วกับคนพาล เคยบวชอาศัยผ้าเหลือง ยกระดับตนเอง วันนี้กลับกลายเป็นพระมหา 2 เพศ
ล่าสุดแพรรี่ ก็ได้โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" ระบุว่า "ดิฉันเห็นแล้วนะคะที่ E ลุงครึ่งพระครึ่งฆราวาส มันเขียนบทความถึงดิฉัน แค่มันขึ้นต้นว่า กราบนมัสการ (อลัชชี) ที่เคารพ ดิฉันก็ไม่คุยกับมันแล้วค่ะ ป่วยการที่จะพูดกับคนแก่ที่สมองทึบแบบนั้น
พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้นะคะ โคย่อมไปสู่สำนักของโค เช่นกันค่ะ ดิฉันเสริมว่า กระบือก็ย่อมไปสู่สำนักของกระบือค่ะ อลัชชีย่อมคบหาอลัชชี พวกอธรรมวาที ย่อมซ้องเสพด้วยอธรรมวาที
คนชื่นชมคนเช่นไร ก็มักเป็นคนเช่นนั้นแหล่ะค่ะ โบราณว่า คนศีลเสมอกัน มันจึงอยู่ด้วยกันได้ คนถ้าไม่ประพฤติตัวแบบเดียวกัน มันจะมายกย่องกันหรอคะ
ดิฉันยืนยันอีกครั้งนะคะว่า ดิฉันมีข้อมูลการประพฤติอนาจารของพระอลัชชีรูปนั้นเยอะมาก ๆ สร้างเรื่องสร้างราว ตั้งแต่สมัยอยู่วัดพุทธปัญญา สั่งการให้ต่อยตีทำร้ายพระรูปอื่นจนเลือดตกยางออก ยักยอกเปลี่ยนถ่ายเงินในบัญชีสมัยเป็นรักษาการเจ้าอาวาส จนเงินหายไปจากบัญชี 4 ล้านกว่าบาทอย่างมีพิรุจน์ มีเอกสารอยู่ที่สำนักงานเจ้าคณะตำบลบางเขนนะคะ สามารถไปขอดูได้
ดิฉันออกจะแปลกใจว่า E ลุงครึ่งพระครึ่งฆราวาสนี่มันฉลาดหลายเรื่องนะคะ ทำตัวสู่รู้เป็นขงเบ้งชอบถือพัดโบกไปมา ก่อวีรกรรมไปทั่ว ก่อนด่าวัดนั้นวัดนี้ เช่นที่ทำกับวัดพระธรรมกายบ้าง วัดปากน้ำบ้าง
ไม่ว่ากันนะคะ ในเรื่องการวิจารณ์ ตำหนิ แต่ที่ดิฉันสงสัย คือกับเรื่องพระอลัชชีนี่ E ตาลุงครึ่งผีครึ่งคนดันทำตีมึน เหมือนไม่รู้ตื่นลึกหนาบางอะไรซะอย่างนั้น หรือแกอาจตั้งใจทำมึนก็ได้นะคะ
สำหรับดิฉันคนพวกนี้จริง ๆ แล้ว ไม่ค่อยมีสติปัญญาอะไรหรอกค่ะ ขอแค่ความเห็นทางการเมืองต่างจากมัน มันก็พร้อมจะกระโดดงับขาหรือแยกเขี้ยวใส่แบบไม่ดูสี่ดูแปดอยู่แล้ว
ดิฉันอ่านบทความของมันแล้ว ก็ได้แต่สมเพชเวทนา นี่ไม่นับเรื่องทำทีมาพูดเรื่องกิริยาส่อสถุลกับดิฉันอีกนะคะ กล้ามากมึ! โอ๊ยย คือแถวนั้นไม่มีกระจก?
ดิฉันไม่อยากลู่กับกระเบื้อง ไปย้อนดูสิ่งที่ตาลุงนี่ทำกันเองแล้วกันนะคะ จะรู้ว่าที่ว่า กิริยาส่อสกุลจริง ๆ มันเป็นยังไง"