ศึก ปชป.-ภูมิใจไทย ยังไม่จบ !! ซัดกันนัวปม ร่าง พรบ.กัญชา ลูกพรรค"เสี่ยหนู"ดาหน้าสวนกลับ บอกให้ ปชป.เอาเวลาไปห่วงพรรคตัวเองกว่า ไม่ต้องมาห่วงปมกัญชาเสรี เห็นเลือดทะลักไหลออกไม่หยุด เดี๋ยวลดสเกลเป็นแค่พรรคประจำจังหวัด

 

จากกรณ์ที่นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความเห็นเรื่องกัญชาเสรี ว่า ไม่กลัวดัง แต่กลัวดับ หลังนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาบอกว่า ร่าง พรบ. กัญชา ถูกขัดขา เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป

 

ประเด็นนี้ ทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่พอใจอย่างมาก พร้อมใจออกมาตอบโต้ อย่างนายศุภชัย ใจสมุทร สส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก  ว่า เอาเวลา ไปห่วงตัวเองดีกว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทย ดังเกินไป กระทั่งพรรคการเมืองหลายพรรคจ้องเตะตัดสกัดขา เรื่องนี้ เราไม่ได้วิเคราะห์เอาเอง เหมือนที่นายอลงกรณ์ กล่าวหา แต่นักวิชาการ กูรูการเมือง สื่อมวลชนแทบทุกสำนักก็มองตรงกัน ว่าพรรคประชาธิปัตย์ กำลังเล่นเกมอยู่ ขณะที่เรื่องการเมืองล้มกัญชา เราไม่ได้คิดเองเออเอง ทุกอย่างมันเห็นๆ กันอยู่

 

และก่อนที่อลงกรณ์ จะบอกว่า ทุกพรรคสนับสนุนกัญชาเสรีทางการแพทย์ มีนัยยะ คือไม่สนับสนุนเรื่องนันทนาการ ก่อนที่จะพิมพ์ตรงนี้ ท่านได้ไปคุยกับนายกนก วงศ์ตระหง่าน หรือยัง เพราะ นายกนก กมธ.กัญชา ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวตั้งตัวตีในการผลักดันฟูลมูนปาร์ตี้ กัญชาฮาเฮเลย

 

ที่สุดแล้ว ต้องขอขอบคุณที่นายอลงกรณ์ เป็นห่วงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนโยบายพรรคภูมิใจไทย อีกมุมมันก็สะท้อนว่า นโยบายกัญชาของเรา มันเดินหน้าไปแล้วอย่างเป็นรูปธรรม มิเช่นนั้น ท่านคงไม่มีโอกาสได้ออกมาโวยวายแบบนี้หรอก ถือว่า ท่านมาช่วยเราขายสโลแกน “พูดแล้วทำ” แต่ท่าน ก็ควรจะเป็นห่วงตัวเองบ้าง ได้ข่าวว่า พรรคท่านเองก็เจ็บหนักเลือดไหลออกเป็นว่าเล่น มีสื่อบางสำนักวิเคราะห์ว่าพรรคท่านกำลังสาละวันเตี้ยลง จากพรรคระดับประเทศ กลายเป็นพรรคภูมิภาค และล่าสุด น่าจะกลายเป็นแค่พรรคจังหวัด 

 

เรื่องนี้ สื่อเขาวิเคราะห์ตามจริงครับ มีอย่างที่ไหนจากพรรคหลักร้อย เป็นถึงระดับแกนนำขั้วรัฐบาล ตอนนี้ ขอแค่ 50 คน ก็ยังเหนื่อย

 

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า อ่านข้อความของนายอลงกรณ์ หลายรอบ เพราะมีความรู้สึกว่า พี่จ้อน มีความย้อนแย้งอยู่ในตัวพอสมควร  พี่บอกว่าเป็นห่วงสถานการณ์สุญญากาศแบบปัจจุบันนี้ กัญชานั้นเสรีเกินไป ทำไมไม่รอ ร่าง พรบ. ให้เสร็จก่อน แต่กลับไม่ช่วยกันผลักดันร่างให้ผ่านสภา หากจริงใจ ควรรีบผ่าน กม.กัญชา ให้มีการควบคุมการใช้ให้ถูกต้อง และ จริงๆตอนนี้กัญชาไม่ได้เสรี มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขควบคุมการใช้และปกป้องเยาวชนอยู่หลายฉบับ แต่หากมีกฎหมายระดับ พรบ. รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติงานง่าย เป็นหน้าที่ของสภาที่ต้องทำให้เกิดขึ้น ดังนั้น คำพูดห่วงใยของนายอลงกรณ์ จึงเป็นเสมือน ทองหยอดอาบยาพิษ ฟังดูดี แต่เจตนาไม่แน่ใจ ว่าเหมือนอย่างที่พูดหรือไม่