ตะลึง รอย คล้ายพญานาค 3 ตัว แทรกอยู่ตามโขดหินขนาดใหญ่  ชาวบ้านพาพิสูจน์ ลำตัวและเกล็ดสีเหลืองผสมเขียว

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 26 ก.ย.65 ที่ลำธารติดป่าใกล้หมู่บ้านควนลังงา หมู่ที่ 4  ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นาย อาดัม บามเหมบูงา กำนันและชาวบ้านในพื้นที่ตำบลทรายขาว พาทีมข่าวลงไปพิสูจน์เรื่องราวความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมา ของบรรพบุรุษว่า มีตัวพญานาค 3 ตัว ติดอยู่ในหินกลางลำธาร ห่างจากน้ำตกทรายขาว แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของ จ.ปัตตานี ประมาณ 2 กิโลเมตร

โขดหินพญานาคมีตั้งแต่ตัวขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ รวม 3 ตัว อยู่ถัดกันเหมือนกำลังจะข้ามผ่านโขดหิน ขนาดใหญ่กลางลำธาร มุงหน้าไปในทิศทางเดียวกันขึ้นไปตามสันเขา

จากการสำรวจโขดที่มีน้ำไหลผ่านเป็นแอ่งๆ พื้นที่ราบเรียบของโขดหินเชื่อว่าผ่านการหลอมเหลวจากความร้อน กลายเป็นหินปูนจับตัวแน่นเป็นแนวผิวแทรกอยู่เป็นรูปคล้ายลำตัว มีสีทองผสมสีเขียวไล่กันไปตามลำตัว ยิ่งดูยิ่งคล้ายเกล็ดของพญานาค

 

นาย อาดัม บามเหมบูงา กำนัน ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เล่าว่า ลำธารแห่งนี้จะมีรอยประวัติศาสตร์ความเชื่อของบรรพบุรุษ เล่าต่อๆ กันมาว่าเป็นรอยพญานาค จากจุดตรงนี้เป็นหินแกรนิตทั้งหมด แต่ความบังเอิญนั้นจะมีรอยหินแกรนิต กลายเป็นรูปหินปูนที่เกิดความลึกจากความร้อน จากเรื่องเล่าบอกว่าพญานาคจากฝั่งทะเลได้เดินผ่านจุดนี้ เพื่อตรงไปยังตัวน้ำตก มีทั้งหมด 3 รอย เป็นเวลานับร้อยนับพันปี ผ่านวันเวลา ธรรมชาติจากน้ำอาจจะสึกกร่อนไปบ้าง 

และเนื่องจากเรื่องเล่าที่ว่าพญานาคทั้ง 3 ตัว จากทะเลเดินทางมาจะขึ้นไปบนเขา ที่ตั้งของตัวน้ำตกทรายขาวนั้น จะมีรูปปั้นของหัวพญานาคอยู่แล้ว 3 หัว เวลาลูกหลานจะบวชนาค บวชพระ จะต้องมีการสระผมที่วังหัวพญานาคที่น้ำตก  จึงเชื่อกันว่า 3 หัวนั้นก็คือ 3 ลำตัวพญานาคตรงจุดนี้ แต่ผู้คนภายนอกยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องเล่านี้มากนัก เป็นเพียงแต่เรื่องเล่าขานกันมาของคนในชุมชนที่บอกต่อๆ กันมารุ่นสู่รุ่น ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ จนมาลูกหลานพวกเราก็เห็นว่าเป็นรอยที่มีความผิดปกติ หินแกรนิตที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพิ่งจะเป็น แต่เป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว จึงอยากฝากถึงนักท่องเที่ยว หากสนใจมาเยี่ยมมาชมตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งก็เชิญชวนมาเที่ยวได้ เพราะยังเป็นลำธาร มีโขดหินให้สามารถมานั่งพักผ่อนเล่นได้