"อนุทิน" ซัด นักเรียนพี้กัญชาในโรงเรียนผิดกฎหมาย จี้ตำรวจดำเนินคดี ชี้ ผอ.ต้องรับผิดชอบ ขออย่าโยงนโยบายกัญชาเสรี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปเด็กนักเรียนดูดกัญชาภายในโรงเรียนอย่างเมามันว่า ผิดกฎหมายเพราะกฎหมายบอกว่า ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทุกกรณี และกฎหมายยังบอกว่า ห้ามสูบกัญชาในสถานศึกษา อีกทั้งกระทรวงสาธารณสุขก็ออกประกาศมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประกาศดังกล่าวถือเป็นกฎหมาย ดังนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องตามไปดำเนินคดีแค่นั้นเอง 

ส่วนที่ดูเหมือนว่าเมื่อออกประกาศมาแล้วยังแก้ปัญหาเรื่องกัญชาที่หลายฝ่ายห่วงไม่ได้ จะมีอะไรที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า หากขับรถเกินความเร็ว 120 บนทางด่วน คนจับคือใคร ผู้สื่อข่าวตอบกับว่า ตำรวจ นายอนุทิน รับว่า อืม นั่นแหละเหมือนกัน

ส่วนจะต้องคุยกับกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ในกฎหมายมีผู้บังคับใช้และเจ้าพนักงานอยู่แล้ว ใครทำผิดกฎหมายก็มีหน่วยงานรับผิดชอบไปดำเนินคดี

ขณะเดียวกัน ภายหลังจากมีข่าวดังกล่าว มีหลายฝ่ายนำไปโยงว่าเป็นผลพวงจากนโยบายกัญชาเสรี นายอนุทิน ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยเสนอกฎหมาย พรบ. กัญชา ซึ่งสภาฯ ได้รับหลักการในวาระแรก และตั้งกรรมาธิการที่มาจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ผู้ทรงคุณวุฒิ จากนั้นกรรมาธิการได้แปรญัตติเพิ่มเติม จาก 45 มาตรา เป็น 95 มาตรา แต่เมื่อนำมาสู่การพิจารณาของสภาฯ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คนที่เคยรับหลักการก็บอกว่าไม่รับหลักการ ไม่พิจารณาโดยที่ไม่ได้อ่านเลย ว่าแต่ละมาตราเป็นอย่างไร  ซึ่งเราก็ต้องทำตามกติกา เมื่อเขาไม่รับ ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราไปยุ่งไม่ได้ ซึ่งก็เรื่องของกรรมาธิการว่าจะเสนอกลับไปเมื่อไหร่อย่างไร เพราะตอนนี้พ้นจากมือพรรคภูมิใจไทยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ผู้ประกอบการทั้งหลายมีระเบียบที่ปฏิบัติได้อยู่และป้องกันได้เป็นอย่างดีไม่มีปัญหา รูปอะไรที่ออกมาอย่างนั้นถ้าให้ผมทำผมก็ทำได้

ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าร่าง พรบ. กัญชา กัญชง จะผ่านสภาฯ ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า มันพ้นมือของพรรคภูมิใจไทยและกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว เป็นเรื่องของกรรมาธิการ ซึ่งต้องชี้แจงพยายามทำให้ มีการพิจารณาให้ได้ ต้องคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เพราะ สส.มีหน้าที่พิจารณากฎหมาย ถ้าไม่ทำก็เท่ากับทำหน้าที่ขาดไป