"แพรรี่" พร้อมด้วยทนายเกิดผล เข้าร้องต่อสภาทนายความตรวจสอบมรรยาทของ "ทนายธรรมราช" ชี้ใช้ถ้อยคำดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเหยียดเพศสภาพ
วันที่ 29 ก.ย. 65 เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมป์ บางเขน นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ พร้อมนายเกิดผล แก้วกำเนิด ทนายความ เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอให้สอบสวนมรรยาททนายความของนายธรรมราช ทนายความ เจ้าของบัญชีเพจเฟซบุ๊ก ทนายธรรมราช The Lawyer of legality จากกรณี แพรรี่ ไลฟ์ปะทะวาจากับพระชาตรี เหมพันธ์ เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร วัดไทยแห่งเดียวใน นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย จนเกิดการตอบโต้ในหลายประเด็นผ่านสื่อออนไลน์แล้วนายธรรมราช โพสต์ข้อความและถ่ายทดสด โดยการใช้ถ้อยคำในลักษณะดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเหยียดหยามเพศสภาพ
โดยนายไพรวัลย์ เปิดเผยว่า กรณีของตนเองกับพระชาตรีนั้นได้จบลงไปแล้ว แต่นายธรรมราชได้นำประเด็นข้อโต้งแย้งที่ตนเองมีต่อพระชาตรี ไปแจ้งความโดยกล่าวหาว่า ตัวเองดูหมิ่นพระชาตรีและคณะสงฆ์ ซึ่งนายธรรมราชได้โพสต์ข้อความและไลฟ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยถ้อยคำที่กล่าวพาดพิงเสียดสีเรื่องเพศสภาพ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อตัวเอง แต่ฟังแล้วเข้าใจได้ว่าหมายถึงใคร ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ส่วนกรณีของนายเกิดผล เปิดเผยว่า ตนเองโพสต์ข้อความถึงประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดูหมิ่นคณะสงฆ์ หลังมีประเด็นระหว่างแพรรี่กับนายธรรมราช หลังจากนั้นนายธรรมราชได้โพสต์ตอบโต้กลับ ซึ่งได้ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม โดยใช้อาการเจ็บป่วยของตนเอง มาเกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นการกล่าวเสียดสี เหยียดหยามและซ้ำเติม รวมทั้งไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อการกระทำ เพราะพบว่าได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยกล่าวพาดพิงซ้ำอีก
ขณะนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมถ์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนของทั้ง 2 คน แล้วจะส่งต่อกรรมการมรรยาททนายให้พิจารณาเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยปกติไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่ในทางปฏิบัติหากเป็นกรณีกระแสสังคมจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว หลังเรียกทนายความผู้ถูกร้องเข้าให้ข้อมูลจะต้องมาพบภายใน 30 วัน ทั้งนี้สามารถเลื่อนได้แต่ต้องมีเหตุสมควร
ส่วนโทษทางวินัยมีหลายระดับ ตั้งแต่ ตักเตือน พักใบอนุญาต สูงสุด 3 ปี โทษร้ายแรงที่สุดคือ ลบชื่อออกจากสภาทนายความฯ