นักวิชาการรัฐศาสตร์ ชี้ หาก"บิ๊กตู่" อยู่ต่อ ม็อบออกมาเคลื่อนไหวแน่ แต่คงจุดไม่ติด เชื่อกลับสู่ตำแหน่งจะปรับ ครม.หลังช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาพรรคร่วมขัดแย้งหลายเรื่อง มั่นใจจะไม่มีการยุบสภา โอกาสอยู่ครบเทอมสูง หาก "ประยุทธ์" ได้เก้าอี้คืน
นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องชี้ชัดว่า เริ่มนับจากวันไหน เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย แม้คำร้องจะขอให้วินิจฉัยเพียงครบหรือยังไม่ครบ ส่วนแนวทางคงหนีไม่พ้น 3 แนวทางที่ออกมา ซึ่งส่วนตัวปักหมุดไว้ที่เริ่มนับจากปี 2560 คือรัฐธรรมนูญบังคับใช้ แต่ก็ไม่อยากเดาใจศาล อาจจะออกทางอื่นก็ได้
นางสิริพรรณ ยังวิเคราะห์ต่อด้วยว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้น หากพลเอกประยุทธ์ ได้ไปต่อคือการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะช่วงที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 เดือน ก็จะเห็นได้ชัดว่ามันเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และสิ่งที่เห็นอีกคือ พลเอกประยุทธ์ จะอยู่ครบวาระ ไม่ยุบสภา เนื่องจากในประวัติศาสตร์ไทย มีแค่รัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่อยู่จนครบวาระ นี่ก็อาจจะเป็นหมุดหมายสำคัญของพลเอกประยุทธ์
ส่วนม็อบคงออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน แต่คงจุดไม่ติด เพราะหลายคนมองว่าอีกไม่นานจะมีการเลือกตั้ง ทำให้ไม่มีแรงสนับสนุน ยิ่งไปกว่านั้นพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลก็ชัดเจนไม่ออกมาสนับสนุนการประท้วง จึงคิดว่า ไม่น่าจะได้ฐานการสนับสนุนที่มากพอ อีกทั้งการลงถนนมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการรัฐประหารทำให้พรรคการเมืองไม่อยากกลับไปสู่วงจรเดิม
แต่หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ว่า ไม่ได้ไปต่อ ก็เชื่อว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็จะเป็นตัวเต็งขึ้นเป็นนายกฯ และก็เป็นประธานในการจัดประชุมเอเปค จากนั้นมีโอกาสยุบสภาสูง แต่ก็จะยุบเมื่อพรรคพลังประชารัฐพร้อม
นางสิริพรรณ กล่าวต่อว่า อยากให้จับตาการพิจารณากฎหมายลูก เพราะหากไม่ทันภายในเดือนตุลาคม การเลือกตั้งอาจจะสะดุดลงได้ อย่าลืมว่า ผู้มีอำนาจหากไม่มั่นใจว่าจะกลับมาได้ อาจจะใช้เครื่องมือเพื่อชะลอการเลือกตั้ง และกฎหมายลูกรวมถึงรัฐธรรมนูญก็เป็นช่องทางหนึ่ง และวิเคราะห์ต่อด้วยว่า เรื่อง 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ อาจจะจุดม็อบไม่ติด แต่ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง จุดติดแน่