"เพชรบูรณ์" น้ำป่าทะลัก หลายพื้นที่อ่วม! ถนนสายหลักถูกน้ำท่วมขังหนักเป็นช่วง ๆ เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ สั่งทุกอำเภอรับมือ-เตรียมจุดอพยพ
เมื่อวันที่ 29 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.เพชรบูรณ์ มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวัน เนื่องจากอิทธิพลของพายุโนรู ส่งผลทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาต่างๆ ไหลลงมาท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.บึงสามพัน อ.วิเชียรบุรี และ อ.ศรีเทพ โดยเฉพาะที่ อ.ศรีเทพ โรงพยาบาลศรีเทพถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเป็นรอบที่ 2 แล้ว ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ระดับน้ำมีความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งขนย้ายอุปกรณ์ใน รพ.บางส่วนมาไว้บนที่สูง ส่วนการเดินทางเข้าออก รพ.นั้นค่อนข้างลำบาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเตรียมรถและเรือท้องแบน ไว้บริการรับส่งประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าออกโรงพยาบาล
ทางด้าน นายชัชวาลย์ เบญจสินิวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวขณะลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ที่ รพ.ศรีเทพ ว่า บริเวณโดยรอบ รพ.ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทางจังหวัดและ รพ.ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 3 เครื่อง เพื่อเร่งระบายออก
ส่วนผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่ใน รพ.นั้น ไม่มีผลกระทบ เพราะน้ำไม่ได้ไหลเข้าท่วมในตัวอาคาร การให้บริการทุกอย่างของ รพ.ยังเป็นปกติ จะมีเพียงแค่การเดินทางเข้าออก รพ.เท่านั้นที่ค่อนข้างยากลำบาก ส่วนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่จะเร่งนำกระสอบทรายมาปิดล้อมกำแพง รพ.ทั้ง 4 ด้าน รวมทั้งเตรียมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งสูบน้ำออก ซึ่งสถานการณ์ที่ รพ.คิดว่าเอาอยู่แน่นอน
ส่วนเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ซึ่งเป็นถนน 4 ช่องจราจร และเป็นสายหลักนั้น ขณะนี้ถูกน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ ช่วงหนักที่สุด คือ ช่วงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 104-106 ตั้งแต่บริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านโคกสะอาด อ.ศรีเทพ ขึ้นไปทาง อ.วิเชียรบุรี ถูกน้ำท่วมสูงถึงประมาณ 30-40 เซนติเมตร บางแห่งระดับน้ำท่วมสูงถึงกว่า 60 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จนรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรวิ่งผ่านไปมาได้ แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 2 (บึงสามพัน) ต้องสั่งปิดเส้นทางและให้ไปใช้ทางหลวงหมายเลข 2275 ถนนสายวิเชียรบุรี-ศรีเทพ แทนเป็นการชั่วคราวก่อน
ขณะที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้สั่งเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบจากพายุโนรู ที่จะพาดผ่านพื้นที่ในวันนี้ โดยให้ทุกอำเภอเตรียมจุดอพยพ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ฝนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป