เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2.6 พัน ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำไหลท่วม 2 พันหลังคาเรือน ชาวบ้านกว่า 1 พันครอบครัว หอบของนอนริมถนน
วันที่ 1 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่าน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศวัดได้อัตรา 2,620 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้นไปที่ 2,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน ทั้งนี้เพื่อเร่งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือที่จะมีมากขึ้นจากพายุโนรูในช่วง 1 สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งจากที่คงการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมาวัดได้ +16.08 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ซึ่งจากระดับน้ำที่ยกตัวขึ้น ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ 6 ตำบลของ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมกว่า 2,000 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 60-150 เซนติเมตร ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากนับพันครอบครัวที่เร่งออกมาสร้างเพิงพักบนถนนคันคลองมหาราช และถนนสายต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นที่หลับนอนชั่วคราวแล้ว ส่วนทางราชการกำลังเร่งจัดหาความช่วยเหลือเข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน ทั้งน้ำสะอาด ห้องสุขา และไฟฟ้า รวมทั้งป้ายเตือนต่าง ๆ
ตามจากแนวโน้มจากสถานการณ์น้ำปัจจุบันทางราชการขอให้ประชาชนพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ได้เฝ้าระวังและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะในช่วงวันที่ 1-3 ต.ค. ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยาจะคงอัตราการระบายไว้ในเกณฑ์ 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค.หรือมีการปรับแผนเพื่อให้สอดคล้องกับมวลน้ำเหนือที่เติมลงมา ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้นได้อีก โดยจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี พื้นที่ลุ่มต่ำ คลองโผงเผง อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล อำเภอบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนนทบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ จึงขอให้พื้นที่ตามประกาศเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย