พ่อพร้อมรับเลี้ยงแทน หลังพ่อเลี้ยงติดยาบ้า ขืนใจลูกสาวมาราธอนเกือบ 10 ปี โดยแม่แท้ ๆ รู้เห็นเป็นใจ หนำซ้ำติดยางอมแงมทั้งคู่

 

วันที่ 1 ต.ค. 65 ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงติดยาเสพติด ข่มขืนลูกเลี้ยงมาราธอนนานเกือบ 10 ปี ด้านนางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีพิเชษฐ์ แก้วจินดา ยุติธรรมจังหวัดนครพนม และคณะพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ถูกพ่อเลี้ยงบังคับข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ต่อเนื่องมาจนอายุ 16 ปี โดยมีแม่บังเกิดเกล้ารู้เห็นเป็นใจให้พ่อเลี้ยงลงมืออย่างต่อเนื่องเรื่อยมา

จนกระทั่งความมาแตกเมื่อน้องเอตั้งครรภ์และได้คลอดบุตรเป็นเพศหญิง ทำให้ญาติ ๆ ทั้งฝ่ายพ่อแท้ ๆ และของพ่อเลี้ยงที่ทราบเรื่องทนไม่ไหว จึงประสานตำรวจและหน่วยงานยุติธรรมให้ดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็กทันที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมและสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อเลี้ยงทราบชื่อต่อมาว่า นายอินทร์ปอน กิติผง อายุ 51 ปี ใน 3 ข้อหาหนัก ทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า รวมถึงข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ส่วนแม่ของน้องเอ แจ้งข้อหา ในข้อหาเสพยาบ้าและมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการนำ 2 สามีภรรยาอยู่ระหว่างส่งฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม เพื่อรอการพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับพ่อของน้องเอ เปิดเผยว่า ตนเองมีลูก ด้วยกัน 4 คน ชาย 1 หญิง 3 ต่อมาลูกชายเสียชีวิต จึงเหลือเพียงลูกสาว 3 คน คนโตออกไปมีครอบครัวแล้ว ครอบครัวเหลือเพียงน้องเอและลูกสาวคนเล็ก โดยแม่เด็กชอบเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ทั้งเสพทั้งขาย จนได้รู้จักกับนายอินทร์ปอน ซึ่งชื่นชอบการเสพยาบ้าด้วยกัน จึงได้เลิกรากับตนเองไป โดยพาลูกสาวทั้งสองของตนเองไปด้วย

ตลอดเวลาที่ลูกสาวทั้งสองของตนเอง ไปอยู่อาศัยกับแม่และพ่อเลี้ยง ลูก ๆ ต้องพบแต่ความลำบากเนื่องจากพ่อเลี้ยงและแม่มักหมกมุ่นอยู่กับยาเสพติด เงินค่าจ้างค่าแรงที่ได้จากการทำงานก็หมดไปกับการซื้อหายาเสพติด จึงได้พยายามส่งเสียเงินทองตามกำลังเท่าที่พอหาได้ให้น้องเอ เพื่อจะได้นำไปแบ่งเลี้ยงน้องคนเล็กด้วย ต่อมาลูกคนเล็กก็ร้องขอกลับมาอยู่กับพ่อ ขณะนั้นตนเองก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่ขอกลับมาว่าเกิดจากเรื่องนี้หรือไม่

ซึ่งตนเองไม่อยากเห็นลูกต้องออกไปใช้ชีวิตในสภาพแบบนั้นอีกต่อไป แม้ตนเองจะทำงานรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่มากนักก็ตาม แต่ที่ผ่านมาก็คอยส่งเสียเลี้ยงลูกมาโดยตลอด เพราะรู้ดีว่าแม่และพ่อเลี้ยงไม่ค่อยสนใจในความเป็นอยู่ของลูกอยู่แล้ว จึงอยากขอให้ลูก ๆ มาอยู่กับตนเองจะดีกว่า

ด้านนางอุดร ญาติของนายอินทร์ปอน พ่อเลี้ยง เล่าให้ฟังว่า ตนเองนั้นแบ่งพื้นที่หลังบ้านบางส่วนให้ครอบครัวนี้พักอาศัยชั่วคราว จะดูแลอยู่ห่าง ๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อยเพราะนายอินทร์ปอนเป็นคนมีนิสัยดุดัน ก้าวร้าว ไม่ชอบให้ใครเข้าไปข้องเกี่ยว ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเลยเถิดถึงขั้นข่มขืนลูกเลี้ยงมาราธอนนานถึงเพียงนี้ โดยที่ตนเองก็เห็นความผิดปกติในตัวของน้องเอว่าทำไมจึงอ้วนผิดปกติ เมื่อสอบถามก็บอกว่าน้องอ้วน กระทั่งแม่น้องเอ ได้เข้ามาบอกตนเองว่าเด็กที่อยู่ในท้องของน้องเอไม่ดิ้น ความเลยแตก ก่อนจะมีการแจ้งความเพื่อนำไปสู่การจับกุมตามที่เป็นข่าว

ขณะนี้สภาพจิตใจของน้องเอเริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยมี นางขาล ป้าแท้ ๆ ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ รับมาอุปการะเลี้ยงดูพร้อมหลานสาววัย 2 เดือน ลูกของน้องเอ