ชาวอิสราเอลร้อง "ทนายตั้ม" ถูกบิ๊กทหารชู้ภรรยาไทย ยิงปืนหวังฆ่า หลังแจ้งความคดีไม่คื หนำซ้ำโดนล่ามหลอกให้เซนเอกสารไม่ติดใจเอาความ
วันที่ 6 ต.ค. 65 Mr.Rudy Bahar (รูดี้ บาฮาร์) ชาวอิสราเอลร้องขอความเป็นธรรมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กรณีภรรยาชาวไทยมีชู้เป็นทหารผู้มีอิทธิพล ได้ข่มขู่ ยิงปืนหวังฆ่าตนเองและลูก ๆ
ด้านทนายตั้ม กล่าว่า นายรูดี้ย้ายมาอยู่ไทยและพบกับภรรยาชาวไทยที่พัทยา จนแต่งงานและจดทะเบียนในปี 2001 ภายหลังย้ายไปอยู่ จังหวัดสกลนคร เนื่องจากภรรยาอยากเปิดคาเฟที่บ้านเกิด หลังย้ายมาทางภรรยาได้พบกับทหารคือผู้ก่อเหตุ ที่มาทําทางหลวงบริเวณร้านคาเฟที่กําลังสร้าง และทางทหารได้รู้สึกชอบคอกับภรรยาของนายรูดี้ จนได้มีการติดต่อและสานสัมพันธ์กันนานกว่า 3-4 ปี จนกระทั่งนายรูดี้เพิ่งจะทราบก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน
โดยพนักงานในร้านคาเฟ เล่าว่า วันเกิดเหตุ (6 ส.ค.65) วันเปิดร้านมีน้องในร้านแจ้งว่าเห็นลุง คือทหารชู้ มาซุ่มมองอยู่บริเวณนอกร้าน จึงไปบอกบอสคือนายรูดี้ เมื่อทราบจึงเดินไปบอกกับทหารว่าลูกกับเมียตนเองดูแลได้ หลังจากนั้นได้เดินไปส่งที่รถ แต่ระหว่างทางผู้ก่อเหตุกลับชักปืนหันมายิงนายรูดี้หวังฆ่าทิ้ง จํานวน 5 นัด ระยะห่างเพียง 30 เมตรเท่านั้น และยิงซํ้าอีก 4 นัด ไปที่ลูก ๆ แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
หลังเกิดเหตุเดินทางไปยัง สภ.สว่างแดนดิน เพื่อแจ้งความในกรณีดังกล่าว โดยมีล่ามซึ่งเป็นเพื่อนของภรรยาไปด้วย แต่กลับให้นายรูดี้เซ็นเอกสารที่ไม่ติดใจเอาความ ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีการอ่านรายละเอียดในเอกสารให้นายรูดี้ฟัง ผ่านมาเวลากว่า 2 เดือน ไม่มีการดําเนินคดีหรือติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
จึงทําให้วันนี้ (6 ต.ค. 65) นายรูดี้และลูก ๆ รวมถึงพนักงานคนสนิทเดินทางเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมกับทนายตั้มให้ช่วยดําเนินการในกรณีดังกล่าว โดยทางทนายตั้มรับเรื่องและยืนยันจะพาผู้เสียหายเข้าพบเจ้าหน้าที่ สภ.สว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร เพื่อแจ้งความให้มีการดําเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ และให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าโปร่งใสหรือไม่ ส่วนล่ามหากพบมีเจตนาให้เซ็นข้อความอันเป็นเท็จก็จะถูกดําเนินคดีเช่นกัน
ทั้งนี้ลูกสาวห่วงความปลอดภัยของพ่อและพี่น้องจึงอยากให้พ่อย้ายกลับไปอยู่อิสราเอล แต่ทางพ่อเลือกที่จะอยู่ไทยต่อเนื่องจากยังอยากให้แม่ได้เห็นหน้าลูก