โชเฟอร์รถบรรทุกอาหารสัตว์ วัย 42 ปี ลืมลูกชายตัวเองไว้ที่จุดลงเวลาเขาโทน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ขณะกำลังเดินทางกลับจังหวัดสระแก้ว ยังดีที่ตำรวจทางหลวงประจำจุดตรวจนาดีพบเหตุการณ์ทันเวลา จึงช่วยพาส่งกลับถึงมือพ่ออย่างปลอดภัย

เหตุการณ์เกิดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ต.ค. 2565) ร้อยตำรวจโทบัญชา ตุ่นมี และดาบตำรวจสัญญา ขันโท ตำรวจทางหลวงประจำจุดตรวจอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เลขข้างรถ 3511 สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 3 ขับรถไล่ตามรถบรรทุกคันหนึ่งขณะกำลังเปิดไฟผ่าหมากวิ่งลงเขาโทน มุ่งหน้าไปสี่แยกกบินทร์บุรี

โดยตำรวจทั้ง 2 นาย ได้รับแจ้งว่า มีเด็กชายยืนร้องไห้เพราะพลัดหลงกับพ่อ บนจุดลงเวลาเขาโทน โดยพ่อของเด็กเป็นคนขับรถบรรทุกส่งอาหารสัตว์บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางจากจังหวัดสระแก้วไปยังจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงขากลับที่เป็นรถเปล่า เมื่อรถไปถึงจุดลงเวลา พ่อของเด็กคนนี้ลงจากรถไปแจ้งรายละเอียดใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับรถลงเขา โดยลืมลูกชายของตัวเองไว้ที่จุดลงเวลา

ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับตามไปจนทัน บริเวณด้านล่างเขาโทน ตรงข้ามจุดตรวจทางหลวงอำเภอนาดี โดยตำรวจทางหลวงได้สอบถามคนขับรถบรรทุกว่า พี่ได้ทำอะไรผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงเลย ขณะที่คนขับรถบรรทุกได้พูดคุยโต้ตอบกับตำรวจว่า อย่าบอกว่าผมเหยียบคนตายนะ ก่อนที่ตำรวจจะหัวเราะและขอดูใบขับขี่ของคนขับรถบรรทุกคันนี้ จากนั้นจึงได้พาคนขับรถบรรทุกเดินไปเปิดประตูรถตำรวจ แล้วถามว่า ลืมใครไว้หรือเปล่า ซึ่งหลังจากชายคนนี้เห็นลูกชายของตัวเองอยู่ภายในรถของเจ้าหน้าที่ ก็ได้โผเข้ากอดลูกแล้วบอกว่า พ่อนึกว่าหนูอยู่ข้างบน ก่อนจะวิ่งเข้ามากราบขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเหลือทั้งน้ำตา

คนขับรถบรรทุก อายุ 42 ปี เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ช่วงนี้ปิดเทอมจึงพาลูกชายคนกลางนั่งรถไปส่งอาหารสัตว์ที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงขากลับไปจังหวัดสระแก้ว ลูกชายได้นอนเล่นโทรศัพท์อยู่เบาะหลังรถ เมื่อถึงจุดลงเวลาผางาม ก็ได้ลงจากรถไปเขียนใบลงเวลา ใช้เวลาไปประมาณ 5 นาที ก่อนจะเดินกลับมาที่รถบอกลูกชายให้หยิบยาเส้นให้พ่อหน่อย จากนั้น จึงได้สูบยาเส้นแล้วเดินตรวจสอบสภาพยางรอบรถ ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับลงเขาโทนทันที หลังจากลงรถมาได้สักพัก มองกระจกด้านข้างเห็นรถตำรวจเปิดไฟขับตามมา จึงได้เปิดไฟผ่าหมาก ช่วงนั้นยังบ่นกับลูกเลยว่า เกิดอะไรขึ้นหนอ ถึงมีตำรวจตามมา ซึ่งตอนนั้นยังมั่นใจว่าลูกชายยังนอนอยู่ในรถเพราะยังได้ยินเสียงโทรศัพท์ของลูกดูยูทูบดังขึ้นมาตลอดเวลา แต่เมื่อเดินไปเห็นลูกชายอยู่ในรถตำรวจ รู้สึกทั้งตกใจและดีใจมาก อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจริงๆ ที่ช่วยเหลือ และอยากฝากเตือนไว้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับพ่อคนอื่นๆ ถึงความประมาทเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้นอนไม่หลับทั้งคืนและเข็ดไปจนวันตาย