อยุธยาวิกฤต! เขื่อนพระราม 6 เพิ่มการระบายน้ำ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก นาข้าวกว่า 500 ไร่เสียหาย

วันที่ 10 ต.ค. 2565 สถานการณ์น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเริ่มเข้าสู่จุดวิกฤตหนัก เมื่อเขื่อนพระราม6 ที่ อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา เร่งระบายน้ำเต็มที่ล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตลาดสด อ.ท่าเรือ สถานที่สำคัญริมแม่น้ำป่าสักของ อ.นครหลวง ไปแล้ว และมวลน้ำยังได้ไหลบ่าออกไปทาง ต.ศาลาลอย ต.ท่าเจ้าสนุก ของอ.ท่าเรือ ไปยังทุ่งวังแดง ซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของแม่น้ำป่าสัก น้ำไหลท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 3467 และเป็นเส้นทางหลักเชื่อมระหว่าง อ.นครหลวง กับ อ.ท่าเรือ ไปออกจังหวัดสระบุรีช่วงกม.ที่ 16 เขต ต.ท่าเจ้าสนุก น้ำลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร

 

 

ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ตำบลศาลาลอย และตำบลท่าเจ้าสนุกที่อยู่ฝั่งริมแม่น้ำ ได้ออกมาคัดค้านไม่ให้แขวงทางหลวงอยุธยานำเครื่องจักรมาปั้นคันดินกั้นน้ำไม่ให้ท่วมถนน เพราะกลุ่มชาวบ้านในตำบลวังแดงไม่พอใจที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำที่ไหลบ่าข้ามถนนไปท่วมนาข้าว ที่กำลังจะเก็บเกี่ยวกว่า 500 ไร่ สวนเผือกที่ลงทุนไปแล้วไร่ละกว่า 4 หมื่นบาท มีจำนวนกว่า 300 กว่าไร่จะต้องจมน้ำเสียหาย อีกทั้งหากไม่ป้องกันน้ำก็จะไหลบ่าไปถึงอำเภอนครหลวง จะไปมีผลกระทบกับนิคมอุตสาหกรรมนครหลวง และเส้นทางหลักในการสัญจร ชาวบ้านได้ออกมารวมตัวเรียกร้องให้แขวงทางหลวงอยุธยาเร่งเข้ามาทำคันป้องกันน้ำเพื่อรักษาพื้นที่ฝั่งทิศเหนือของแม่น้ำป่าสักไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะเดือดร้อนยิ่งกว่าน้ำท่วมบ้านเรือน

ต่อมา นายชวลิต ลิ้มอยู่สวัสดิ์ หัวหน้าหมวดทางหลวงแขวงทางหลวงอยุธยา เข้ามาเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้านในตำบลวังแดงที่ออกมาเรียกร้องให้ปิดว่า แขวงทางหลวงพร้อมทำตามความต้องการของชาวบ้านพร้อมที่จะปิดกั้นน้ำให้แต่ขอประเมินระดับน้ำก่อนว่าขึ้นสุงมากน้อยเพียงใดหากพบว่าน้ำขึ้นสูงมากก็จะปิดเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรทำให้ชาวบ้านพอใจแยกย้ายกลับบ้าน