สุดโหด! ฆ่าเผาอำพรางหนุ่มวัย 23 ปี เพิ่งกลับจากเยอรมัน โดยทิ้งศพไว้ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดและเค้นสอบผู้ต้องสงสัย เพื่อหาเบาะแสล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 10 ต.ค. 2565 พ.ต.ท.สกลณัฎฐ ปัตตาเทศา สารวัตร (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบศพคนถูกเผาเสียชีวิต ภายในบริเวณโรงเรียนบ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย คาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าเผาอำพราง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานแพทย์เวรฯ รพ.ประโคนชัย พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างจุดประโคนชัย และหน่วยกู้ภัยบ้านสองเมือง ร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณด้านหลังโรงเรียนบ้านแสลงโทน พบศพนายธนทัต จันทร์แก อายุ 23 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ในสภาพบริเวณหน้าผากคล้ายถูกของแข็งตีเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกไฟไหม้ทั้งเสื้อยืดและกางเกงที่สวมใส่เกือบทั้งหมด ลามไปจนถึงผิวหนังตามร่างกายบางส่วนด้วย ข้างศพพบรองเท้า 1 คู่ ไฟแช็ก 1 อัน คราบน้ำมันและหยดน้ำตาเทียนที่คาดว่าคนร้ายใช้ในการก่อเหตุสังหารโหดครั้งนี้ด้วย ทั้งยังเจอกระเป๋าสะพายสีฟ้าของผู้ตายวางอยู่บนตะแกรงเหล็กที่ไว้สำหรับใส่ขวดพลาสติกหรือขยะรีไซเคิลของโรงเรียน เมื่อตรวจสอบในกระเป๋าพบกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล 1 ใบด้านในมีเงินจำนวน 280 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และบุหรี่ 2 ซอง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
โดยเหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจแก่ครอบครัวญาติพี่น้องและชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมและก่อเหตุในบริเวณโรงเรียนด้วย ถึงแม้จะเป็นช่วงปิดเทอมก็ตาม โดยจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ติดกับกันบ้านของผู้ตาย พบว่าเมื่อเวลา 18.55 น. นายธนทัต เดินออกจากบ้านผ่านหน้าร้านไปคนเดียวก่อนจะพ้นรัศมีกล้องวงจรปิดแล้วหายไปในความมืด แต่ไม่มีใครรู้ว่าจากนั้นนายธนทัตเดินไปไหนหรือไปหาใคร และเป็นภาพสุดท้ายก่อนจะพบศพถูกฆ่าเผาอำพราง
ทางด้าน นายนายบัญญัติ วนมา นักการภารโรง ซึ่งเป็นคนแรกที่พบศพ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. (10 ต.ค.) ตนมาเข้าเวรที่โรงเรียนตามปกติแต่พอเดินเข้ามาภายในโรงเรียน ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้และเห็นเปลวไฟอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียน ตอนแรกนึกว่าใครมาจุดเผาอะไรไว้ แต่พอเดินไปใกล้ๆ แล้วใช้ไฟฉายส่องดู ก็เห็นเป็นขามนุษย์ จึงตกใจและรีบไปเรียกชาวบ้านใกล้เคียงให้มาช่วยดูก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ อย่างไรก็ตามตอนที่เห็นเปลวไฟก่อนจะเดินเข้ามาเจอศพ ก็ไม่ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้าน น.ส.ยุพาภรณ์ หรือก้อย อายุ 22 ปี ภรรยาของนายธนทัต ผู้ตาย เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า สามีเพิ่งกลับจากเยอรมันพร้อมกับครอบครัว ตอน 5 ทุ่มของคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้ววันนี้ 10 ต.ค.ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของตนเอง ทางครอบครัวญาติพี่น้องประมาณ 10 คน จึงจัดกินเลี้ยงฉลองสังสรรค์กัน โดยเริ่มตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็น กระทั่งช่วง 6 โมงกว่าไม่เห็นสามีอยู่ที่บ้าน ก็คิดว่าน่าจะเดินไปซื้อของหรือเดินเล่นใกล้ๆ กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่เห็นสามี ก็เริ่มใจคอไม่ดีจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้านค้าข้างบ้าน ก็พบภาพสามีของตนเองเดินผ่านหน้าร้านของชำไปคนเดียวช่วงเวลา 18.55 น. แล้วก็หายไปกับความมืดโดยไม่รู้ว่าจะไปไหนไปหาใคร กระทั่งมาทราบอีกทีว่ามีคนพบศพสามีถูกฆ่าเผาอำพรางที่โรงเรียนบ้านแสลงโทนแล้ว ก็รู้สึกช็อกมากทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้สาเหตุว่าสามีถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเพราะอะไร เพราะสามีเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด
ขณะที่นายสุวรรณ ภาศรี ลุงของผู้ตาย บอกว่า ตนรักนายธนทัตเหมือนลูกชายคนหนึ่งเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่แม่ของเขาจะพาไปอยู่ต่างประเทศด้วยแต่ก็ไปๆ กลับๆ ซึ่งหลานกับครอบครัวก็เพิ่งเดินทางมาจากเยอรมันได้คืนวันที่ 9 พอเย็นวันนี้ 10 ต.ค.65 ที่บ้านจึงมีการกินเลี้ยงสังสรรค์กันในครอบครัวเครือญาติ ประกอบกับเป็นวันเกิดของหลานสะใภ้ด้วย ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลานออกไปจากบ้านตอนไหนหรือไปหาใคร มารู้อีกทีตอนที่มีคนไปพบว่าถูกฆ่าเผาอำพรางในโรงเรียนที่หลานเคยเรียนตอนเด็ก หลานเป็นคนในหมู่บ้านและเคยเรียนที่นี่ก็ไม่เคยเห็นหลานมีปัญหากับใคร จึงไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม
ซึ่งด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบทั้งภูธรจังหวัดและชุดสืบ สภ.ประโคนชัย ก็ได้เร่งแกะรอยวงจรปิดใกล้เคียง และเรียกสอบผู้ต้องสงสัย เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นการเพื่อหวังเอาทรัพย์สิน หรือความแค้นส่วนตัว