ปปป. บุกแจ้งข้อหา "คณบดี-หน.สำนักงาน" มหาวิทยาลัยดัง ส่อทุจริตจัดโครงการอบรมทิพย์ เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เข้าแจ้งข้อหากับผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย คือ ผศ.ดร. คณบดีคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ และอีกรายคือ รักษาการหัวหน้าสำนักงานคณบดีฯ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ในความผิดฐาน “เป็นผู้รักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นพนักงานรักษาทรัพย์แต่กลับร่วมกันใช้อํานาจในหน้าที่โดยหารทุจริต, เป็นพนักงานมีหน้าที่จ่ายทรัพย์ ร่วมกันจ่ายทรัพย์นั้นเกินกว่าที่ควรจ่าย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ”
สืบเนื่องจากตำรวจ บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มหาวิทยาลัยดังกล่าวได้มีการจัดโครงการวิชาการขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมกว่า 47 โครงการ โดยมีบางโครงการเป็นการจัดทำในลักษณะต้องสงสัยว่าอาจมีความไม่ชอบมาพากล หรือมีการหาผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อประโยชน์ส่วนตัว จึงจัดกำลังพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนพบว่ามีจำนวน 8 โครงการ ที่พบความผิดปกติในการจัดทำหนังสือเบิกจ่ายเงินค่าดำเนินการ โดยเฉพาะการจัดทำโครงการบริการวิชาการการจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1,122,922.70 บาท ซึ่งจัดขึ้นช่วงระหว่างวันที่ 7 ม.ค.61 ถึงวันที่ 16 ม.ค.61 โดยมี ผศ.ดร. เป็นหัวหน้าโครงการฯ กับประธานกรรมการ และมี รักษาการหัวหน้าสำนักงานคณบดีฯ เป็นกรรมการ-เลขานุการ
จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำใบเบิกจ่ายค่าจัดจ้างวิทยากรชาวต่างชาติจำนวน 3 คน ในอัตราค่าจ้างคนละ 150,000 บาท รวมเป็นเงิน 450,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบประวัติการเข้า-ออก ราชอาณาจักรไทย ของวิทยากรทั้ง 3 คน กลับพบว่ามีการเข้ามาในประเทศ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.60 และออกจากราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 6 ก.พ.60 และภายหลังไม่พบข้อมูลการเข้าราชอาณาจักรไทยอีกเลย ซึ่งเป็นคนละช่วงเวลากับที่มีการจัดทำโครงการดังกล่าว รวมถึงไม่มีการจัดบรรยายผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นอกจากนี้การตรวจสอบอย่างละเอียด ยังพบว่าไม่มีการจัดดำเนินการอบรมสัมมนาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นการทุจริตเงินงบประมาณ จึงนำมาสู่การแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว
จากการสอบสวนทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นจึงนำตัวไปทำบันทึกพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.แสนสุข ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายให้มาเข้าพบเจ้าหน้าที่อีกครั้ง