"โรม" ซัดรัฐบาลโยนความผิดให้คนก่อเหตุกราดยิงหนองบัวลำภูรับคนเดียว เพิกเฉยไม่คิดหาแนวทางป้องกัน จึงเสนอ 4 ข้อปฏิรูปโครงสร้างทหาร-ตำรวจ เพิ่มมาตรการดูแลทหารชั้นผู้น้อย

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดจากทหาร ตำรวจ โดยยกเคสเหตุการณ์การกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู มาถอดบนเรียนจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร เพราะนับตั้งแต่เหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา แทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ทั้งจากทหารและตำรวจ นอกจากนี้ ยังไม่เห็นความพยายามที่จะปฏิรูปเพื่อป้องกันปัญหาลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก จนมาเกิดเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภูอีก โดยที่รัฐไม่ทำอะไรเลย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า  แรงจูงใจการก่อเหตุกราดยิง คือ สภาพแวดล้อมในองค์กรทหารและตำรวจ ทั้งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น การใช้เส้นสาย ตั๋วช้าง ตั๋วตำรวจ ดังนั้น จึงเป็นคำถามว่า คนที่อยู่ในองค์กรเหล่านี้ จะมีความสุขได้อย่างไร / จะซื่อสัตย์กับประชาชนได้อย่างไร หลายคนมีความคล้ายและใกล้เคียงกับอาชญากรมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างเพียงแต่พวกเขาใส่ชุดเครื่องแบบ

ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นกระทำส่วนตัว จะป้องกันได้อย่างไรนั้น นายรังสิมันต์ มองว่า เป็นการโยนความผิด โดยที่ไม่กลับมามองตัวเอง ความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างจะไม่มีวันเกิดขึ้น และอาจจะทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ  เหมือนระเบิดเวลาที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ เราจัดการติดตามข่าวเราก็จะพบว่ามีหลายเหตุการณ์ที่มันเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หลังจากเกิดเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภู

ดังนั้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ จะต้องดำเนินการ 4 ประการ เพื่อเป็นแนวทางปฏิรูปทหารและตำรวจ ได้แก่

1.ป้องกันระบบตั๋วการซื้อขายตำแหน่ง เพื่อไม่ให้คนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากตั๋วมีราคา เงินเดือนไม่เพียงพอ ธุรกิจผิดกฎหมายจึงทำให้คนเหล่านี้มีเงินไปซื้อตั๋ว

2.เจ้าหน้าที่ต้องดูแลผู้น้อยอยู่เสมอ ขณะเดียวกัน องค์กรต้นสังกัด ต้องมีกระบวนการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมและโปร่งใส

3.รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ ไม่ผลักภาระผู้ปฏิบัติหน้าที่ การซื้อปืนเอง ซื้อกระดาษเอง จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป นอกจากนี้ ต้องไม่มอบภารกิจที่ไม่จำเป็น อย่างทหารรับใช้ เพราะควรได้ทำตามหน้าที่

4.กรณีที่พวกเขาต้องออกจากองค์กร รัฐและองค์กรต้นสังกัดต้องเข้ามาดูด้วยว่า พวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างปกติสุขกับประชาชนทั่วไปได้หรือไม่ เพราะความกดดันอาจทำให้พวกเขามีสุขภาพจิตที่ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปได้