"น้องออก้า" ดีใจแข่งเจ็ตสกีได้แชมป์โลก เผย ซ้อมเหนื่อยแต่กำลังใจดี ด้านเปิ้ล นาคร ขอบคุณทุกแรงเชียร์จากคนไทย ลั่น เป้าหมายต่อไปคือรักษาแชมป์
หลังจากที่ “น้องออก้า” คว้าแชมป์โลก การแข่งขันเจ็ตสกีที่สหรัฐฯ เมื่อันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (14 ต.ค.65) น้องออก้า พร้อมคุณพ่อคุณแม่ “เปิ้ล นาคร – จูน กษมา” ก็ได้ออกมาเผยความรู้สึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยเปิ้ล นาคร บอกว่า ด้วยความเป็นพ่อแม่ก็ต้องน้ำตาไหล เอาจริงๆ เราก็มีความหวังนะ ซึ่งไม่รู้หรอกว่าจะได้แชมป์หรือเปล่า และยอมรับว่าเราซ้อมหนักมาก และเด็กจากประเทศอื่น คือเขาก็ซ้อมหนักมาเหมือนกัน แต่คนละมาอย่างโหด ซึ่งลูกเราก็สู้สุดตัวมากๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ เพราะพอไปเจอหน้างานแล้วเครียดมาก ตอนที่แข่งในไทยไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน แต่พอไปที่โน่นต้องแข่งกันเป็นกลุ่มใหญ่ แต่โชคดีที่เรารู้มาก่อนว่าจะต้องแข่งแบบไหน เลยไปแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่ลูกเราใจสู้ไม่กลัว และเขาสู้มากจริงๆ พอเขาออกไปแล้วคือเหมือนเจอพายุลูกใหญ่ที่เป็นคู่แข่งจากต่างชาติ แต่เขาก็สู้ต่อจนสำเร็จอย่างที่เห็น เราปลุกไฟเขาตลอด ยิ่งพอไปถึงอเมริกาแล้ว เขาก็มีความตั้งใจ ถามตลอดว่าอยากจะลงซ้อมจะลงแข่งแล้ว
และในวินาทีที่รู้ผลการแข่งขัน ก็ถึงกับเสียน้ำตาเลยทีเดียว เพราะมันเป็นสิ่งที่เราทุ่มเทกันมาตลอด ตัวเขาเองก็มีความฝันอยากไปชิงแชมป์โลก สุดท้ายด้วยฟ้าลิขิต ทางสมาคมการกีฬาฯ ก็ส่งจดหมายมาบอกว่า “ออก้า” ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขัน จริงๆ เราเป็นรองนะ เพราะเราก็เด็กที่สุดในการแข่งครั้งนี้ แต่เรามั่นใจกับตัวของลูกมาก เขาแข็งแรงมาก อย่างที่บอกว่าที่เสียน้ำตาเพราะเหมือนสานฝันให้เราด้วย เพราะเคยคิดว่าถ้าเราเป็นพ่อและมีลูกแล้วได้แข่งด้วยกันก็น่าจะดี ความรู้สึกที่ลูกเดินตามเราจนมีวันนี้ คือเหมือนว่าเราเองก็ทำสำเร็จเช่นกัน เพราะเราผลักดันเขามาตลอด และยังโชคดีที่ “ออก้า” เขาเองก็รักการเล่นเจ็ตสกีมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ต้องไปบังคับอะไรมาก
ส่วนทางด้าน “น้องออก้า” เผยความรู้สึกคือก็ดีใจ เพราะตอนแข่งก็คิดว่าจะคว้าแชมป์มาให้ได้ รับไม่กดดันตอนลงสนาม ตอนนั้นคิดว่าจะทำให้เต็มที่ ก็เหนื่อยมากในการซ้อม แต่เราสร้างกำลังใจกันอย่างดี ขำๆ ได้อัดฉีดจากคุณแม่ คือเป็นรองเท้าและเติมเกมส์ ถามว่าทำไมถึงอยากได้แชมป์ คืออยากให้ฝรั่งและชาวต่างชาติได้รู้จักเมืองไทย มาเที่ยวที่ไทย ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือการรักษาแชมป์
และเดี๋ยวหลังจากนี้จะไปแก้บน คือต้องบอกว่าตอนนั้นพวกเราลุ้นมาก ก็เลยบนไว้ว่าจะไปรำแก้บนที่พระพรหม ก็คงต้องไปทำตามนั้นที่พูดไว้ เรียกว่าครอบครัวก็พร้อมนะ ส่วนคุณแม่ก็ไม่แพ้กัน เรียกว่าสวดมนต์ทุกบทที่นึกออก ณ เวลานั้น ก่อนไปก็ไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาทุกอย่างเหมือนกัน
ซึ่งความฝันต่อไปของครอบครัว คืออย่าให้ลูกมีหน้าที่รักษาแชมป์ของประเทศไทย เพราะเราไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานเท่าไหน ก็ฝันว่าวันนึงจะได้จากลูก แต่เดี๋ยวเร็วๆ นี้จะสะสมประสบการณ์ให้ลูกต่อไปอีก โดยเดี๋ยวงานที่กำลังไปลงแข่งอีก คือ งานหลวงพ่อโสธรฯ ที่ฉะเชิงเทรา ก็จะแข่งอีก และเรื่องนี้ก็ไม่กระทบการเรียนของเขา เพราะทางโรงเรียนเขาก็ดีมาก ยินยอมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บอกให้น้องไปแข่งก่อน เดี๋ยวกลับมาแล้วค่อยจัดการเรื่องการเรียนต่อ
จริงๆ ต้องขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งทางสมาคมฯ , การกีฬาฯ และผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน หลายๆ ภาคส่วน รวมถึงทีมงานเบื้องหลังที่เป็นส่วนหนึ่งในการประสบความสำเร็จครั้งนี้ ที่ได้ก็มาจากทุกฝ่ายทุกจุด และแรงเชียร์จากคนไทย ที่มีการแชร์ออกไป รวมถึงจากทุกสื่อ ที่ทำให้ทุกคนหันมามองว่าเยาวชนสำคัญที่สุด ที่ควรสนับสนุน ที่ไม่ได้มีไว้ฆ่า ส่วนเรื่องของผู้ใหญ่ก็ปล่อยไปให้สบายกันไป ที่เหลือก็คือเยาวชนที่ต้องให้การสนับสนุนและพัฒนาต่อไป