คุณตาวัย 78 ปี สุดเศร้าบ้านถูกตัดไฟแถมยังมาถูกมือดีใช้กาวแห้งเร็วผสมเศษไม้หยอดอุดรูกุญแจบ้าน ขังคุณตาไว้อยู่กลับหลานชาย 2 คน คาดเป็นฝีมือแก๊งเงินกู้
เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำวิทยุ สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากชาวบ้านรายหนึ่ง ขอความช่วยเหลือช่วยสะเดาะกุญแจบ้าน เพราะไม่สามารถไขกุญแจออกได้ ทำให้ถูกขังอยู่ในบ้าน เหตุเกิดภายในหมู่บ้านชุมชนเคหะลพบุรี ซอย 7 ตำบลกกโก อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
หลังรับแจ้งจึงให้สายตรวจไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำอุปกรณ์ใช้ตัดเหล็กเดินทางที่บ้านเกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ด้านหน้าเป็นประตูกรงเหล็กสูงจากพื้นประมาณ 4 เมตร พบนายยงยุทธ อายุ 78 ปี เจ้าของบ้าน กำลังพยายามใช้เครื่องมืองัดอยู่ที่รูกุญแจที่ได้ล็อกคล้องประตูหน้าบ้าน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ พบว่าที่รูสำหรับเสียบดอกกุญแจถูกมือดีเอาเศษไม้แทงอัดเข้าไปหักคา จึงพยามใช้เหล็กแหลมเขี่ยเอาเศษไม้ออกมา แต่ปรากฏว่ายังมีกาวแห้งเร็วผสมติดอยู่ด้วย ต้องให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างตัดสายยู แต่ตัดยังไม่ขาด เพราะสายยูกุญแจมีความแข็งแรง โดยพยายามใช้เครื่องตัดถ่างจนตัดสายยูกุญแจขาดได้สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายยงยุทธ เล่าว่า ตนเองมาเช่าบ้านหลังนี้พักอาศัยอยู่หลายปีแล้ว โดยอยู่กับภรรยาและหลานชายวัย 12 ปี รวม 3 ชีวิต ส่วนภรรยาอาชีพทำอาหารตามสั่งขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งจังหวัดลพบุรี เรื่องก็มีอยู่ว่าก่อนหน้านี้ภรรยาตน ได้ไปกู้เงินนอกระบบมาจำนวน 10,000 บาท เอามาลงทุนขายของ ส่งรายวันวันละ 500 บาท ช่วงหลังขายของไม่ดี ทำให้ขาดรายได้ ไม่มีเงินพอหมุนเวียน ที่บ้านติดค้างคาไฟ 2 เดือนยังไม่ได้จ่ายก็ถูกตัดไฟไปแล้ว ต้องอาศัยเพื่อนข้างบ้านต่อสายไฟมาให้ใช้ชั่วคราว และช่วง 2 วันนี้ภรรยาเดินทางไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัด ตนเองอยู่กับหลานชาย ส่วนพวกเก็บเงินกู้ก็จะขับรถกระบะสีขาวแต่งซิ่งท่อเสียงดังมาจอดเก็บเงินที่บ้านทุกวัน แต่ช่วงภรรยาไม่อยู่จึงไม่ได้ให้ไปขาดส่งไป 2 วัน พวกแก๊งเงินกู้ก็มีอารมย์ไม่พอใจ ซึ่งช่วงกลางดึกยังได้สินเสียงรถกระบะของแก๊งเงินกู้ขับมาจอดที่หน้าบ้านสักพัก แล้วก็ขับออกไป จนกระทั่งรุ่งเช้าเวลาประมาณ 07.00 นาฬิกา ตนกำลังจะออกบ้านไปหาซื้อกาแฟกินปรากฏว่า ไขกุญแจไม่ได้ จนต้องโทรขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าเป็นฝีมือของพวกแก๊งเงินกู้ที่ภรรยากู้มาแล้วยังขาดส่ง จนทำให้ไม่พอใจก่อเหตุขึ้น เป็นการกลั่นแกลังกัน ซึ่งตนเองจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อสืบหาคนที่มากลั่นแกล้งตนรายนี้ให้ด้วย