ใครทำการเกษตรต้องระวัง! เจอระบาดอีก หลังพบผู้ป่วย "โรคไข้ดิน" เสียชีวิตแล้ว 5 ใน 7 ราย

วันที่ 18 ต.ค. 65 พบผู้ป่วยโรคไข้ดินในพื้นที่ 6 ตำบล ของ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จำนวน 7 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ทางเครือข่ายสาธารณสุขอำเภอเทพาเร่งลงพื้นที่รณรงค์ป้องกันทันทีเพื่อยับยั้งการระบาด พร้อมเก็บตัวอย่างดินและน้ำไปตรวจวิเคราะห์

ในพื้นที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ทางเครือข่ายสุขภาพอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา นำโดยนายวีรศักดิ์ เบญอะหลี สาธารณสุขอำเภอเทพา ออกรณรงค์ป้องกันโรคเมลิออยด์โดสิสหรือโรคไข้ดิน

หลังจากที่พบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในอำเภอเทพาตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมปี 2565 จำนวน 7 ราย และเสียชีวิตถึง 5 ราย ประกอบด้วย พื้นที่ ตำบลเกาะสะบ้า 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย ตำบลท่าม่วง 1 ราย เสียชีวิต ตำบลเทพา 1 ราย เสียชีวิต ตำบลลำไพล 1 ราย เสียชีวิต ตำบลปากบาง 1 ราย เสียชีวิต และ ตำบลวังใหญ่ 1 ราย

ในวันนี้ทางเครือข่ายสุขภาพอำเภอเทพาได้ปูพรมออกรณรงค์ครั้งใหญ่เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวและรู้วิธีการป้องกันจากการป่วยด้วยโรคไข้ดินโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 6 ตำบลที่พบผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพื่อยับยั้งการระบาดโดยเร็วที่สุด

โดยลงพื้นที่พบกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งที่ทำไร่ทำนาทำสวนและประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้านเพื่อให้ความรู้และวิธีการป้องกันโรคนี้

นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดว่ามีเชื้อของโรคเมลิออยด์โดสิสหรือโรคไข้ดินปนเปื้อนหรือไม่

สำหรับโรคเมลิออยด์โดสิสเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ระบาดในประเทศไทย ไม่มีอาการแสดงที่จำเพาะ ผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการไข้สูงเพียงอย่างเดียว อาจมีไข้สูง จนช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดโดยไม่มีอาการจำเพาะที่อวัยวะใด ๆ และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนระยะฟักตัวของโรคนี้ มีตั้งแต่ 2 วัน ถึงนานหลายปี

ในขณะที่สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei (เบอร์คโฮลแดเรีย ซูโดแมลีอาย) พบได้ทั่วไปในดินและน้ำในแหล่งระบาด พบได้บ่อยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือวิธีการติดต่อเข้าสู่ร่างกายคนโดยผ่านทางผิวหนัง

โดยไม่จำเป็นต้องมีรอยขีดข่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการสัมผัสดินและน้ำเป็นเวลานานๆ หรือการดื่มน้ำที่ไม่ได้ผ่านการต้มสุก ผ่านทางการหายใจโดยการหายใจฝุ่นดินเข้าไปในปอด

ส่วนวิธีการป้องกัน สามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำโดยตรงหากต้องสัมผัสดินหรือน้ำ เช่น ทางการเกษตร ต้องจับปลา ลุยน้ำ หรือลุยโคลน ควรสวมรองเท้าบูธ ถุงมือยาง กางเกงขายาว เสื้อแขนยาว สวมหน้ากากอนามัยหรือชุดลุยน้ำ หรือหลังเสร็จจากการลุยน้ำก็ให้ทำความสะอาดร่างด้วยการฟอกสบู่ทันที

กรณีหากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ ไม่ใส่ดินหรือสมุนไพรใด ๆ ลงบนแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลจะหายสนิท และควรดื่มน้ำต้มสุก