ผู้จัดการโตโน่ ยืนยัน งบออร์แกไนซ์จัดว่ายน้ำข้ามโขง ได้จากผู้สนับสนุนเต็มใจช่วยบริจาค ตามศรัทธา ส่วนเทศบาลเมืองพร้อมสนับสนุน สร้างการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพ กับทุกภาคส่วน ยันไม่ใช้งบประมาณรัฐ สร้างความร่วมมือระดมเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อการกุศล ถือโอกาสกระตุ้นเศรษกิจ การท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 เริ่มมีดรามาหนักเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมจัดกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อการกุศลสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน ประกอบด้วย โรงพยาบาลนครพนม และ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อ OneMan And The River ของ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ระยะทางว่ายน้ำโขงไปกลับ ประมาณ 15 กิโลเมตร จากเขตเทศบาลเมืองนครพนม ไปยัง พระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว กำหนดจัดงาน วันที่ 22 ตุลาคม 2565 

 

มีกระแสดรามาทั้งเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการเตรียมพร้อมการจัดงาน เนื่องจากมีการตรวจสอบเอกสารแผนการจัดงาน มีการเตรียมพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน จัดสถานที่มากกว่า 33 รายการ จึงมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งบประมาณว่าจ้างออร์แกไนซ์ มาจัดงานจะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ทั้งที่มีเป้าหมายเพียงเพื่อการกุศล จึงควรที่จะใช้ค่าใช้จ่ายในการเตรียมพร้อมการจัดกิจกรรมให้น้อยที่สุด ถึงแม้จะเป็นเงินที่ได้มาจากการสนับสนุนของผู้มีจิตศรัทธา

 

          ด้าน นางสาวนลินธรณ์ หรือเมษ์ ผู้จัดการส่วนตัวโตโน่ ได้ระบุว่า กรณีการจัดงาน และการเตรียมพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ เป็นการร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้อง ของ จ.นครพนม รวมถึง ออร์แกไนซ์ เป็นผู้จัดการ โดยไม่ได้ใช้งบประมาณภาครัฐ แต่เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน เนื่องจากเป็นกิจกรรมเพื่อการกุศล ส่วนงบว่าจ้างออร์แกไนซ์ ได้มาจากสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนกิจกรรม เป็นหลัก ไม่ได้ใช้งบประมาณรัฐแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจะมีการพิจารณาให้เหมาะสมที่สุด

 

          ส่วน นายวชิรเชษฐ์ กิตติ์พรศิริกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับทางเทศบาลเมืองนครพนม ถือว่าเป็นเจ้าภาพหลักกับทางจังหวัดนครพนม และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ในส่วนของการเตรียมพื้นที่จัดกิจกรรม ว่ายน้ำข้ามโขงเพื่อการกุศลสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน  ภายใต้ชื่อ OneMan And The River ของโตโน่ โดยทางเทศบาลเมืองมีความพร้อมในการจัดเตรียมพื้นที่ โดยมีอุปกรณ์พร้อมอยู่แล้ว ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐ ทั้งเวที เครื่องเสียง การจัดพื้นที่  สำหรับนางรำมาจากการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชนเขตเทศบาลเมืองนครพนม ที่มีความสมัครใจ และมีความศรัทธาที่จะร่วมกิจกรรม นอกจากนี้งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังได้ดูแลเรื่องความปลอดภัยทางน้ำ การวางทุ่นเพื่อความปลอดภัย ตามจุดต่างๆ ทั้งนี้ทางนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงผู้บริหาร และตัวแทนชุมชน ถือว่ากิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรมการกุศล ที่ควรสนับสนุน อีกทั้งเป็นการโปรโมทจังหวัดนครพนม และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ของ จ.นครพนม อีกด้วย ไม่ได้มองว่าเป็นภาระแต่อย่างใด เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันในฐานะเจ้าภาพ