กบง. ตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม อีก 2 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2565 หวังช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กล่าวภายหลังประชุม กบง. ว่า จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศยูเครน และสหพันธรัฐรัสเซีย ส่งผลให้เกิดวิกฤติราคาพลังงานทั่วโลก ซึ่งกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ ภาพรวมเศรษฐกิจ และค่าครองชีพของประชาชน โดยปัจจุบันราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกยังคงผันผวน
กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG พบว่า ในเดือนก.ย. - ต.ค. 2565 ราคา LPG ตลาดโลกลดลงประมาณ 69.40 ดอลลาร์ต่อตัน หรือลดลง 11% จาก 644.65 สู่ระดับ 575.25 ดอลลาร์ต่อตัน ณ วันที่ 18 ต.ค. 2565 ในขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 16 ต.ค. 2565 มีฐานะกองทุนสุทธิ ติดลบ 126,690 ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 84,126 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 42,564 ล้านบาท
ที่ประชุม กบง. จึงมีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2565
การปรับราคาก๊าซ LPG ในครั้งนี้จะช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน แต่จะทำให้กองทุนน้ำมันมีภาระเพิ่มขึ้น และเกิดปัญหาการลักลอบจำหน่าย LPG ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน