"บิ๊กโจ๊ก" สอบปากคำ ด.ต.ฉาวลักปืนหลวงเกือบ 100 กระบอก สารภาพติดหนี้พนัน ขณะที่ได้ปืนคืนมาแล้ว 27 กระบอก มีคนนำมาวางที่สโมสรตำรวจ คาดกลัวความผิด

วันที่ 21 ต.ค. 2565 เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการสอบสวน ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาลักปืนหลวงเกือบ 100 กระบอกไปขาย ว่าตอนนี้ได้ปืนกลับคืนมาแล้ว 27 กระบอก จากการที่มีประชาชนนำมาวางไว้ที่สโมสรตำรวจเนื่องจากกลัวความผิด ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้ต้องรอให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบโดยละเอียดทั้ง DNA ลายพิมพ์นิ้วมือและฝ่ามือ

พร้อมฝากถึงประชาชนที่รับซื้อปืนไปโดยต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ สามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำปืนมาคืนได้ ทางตำรวจก็จะได้สอบปากคำว่ารับไว้ด้วยเจตนาใด แต่เบื้องต้นมีความผิดอยู่แล้ว เช่น ข้อหารับของโจร

ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหา สารภาพว่าติดหนี้พนันจึงก่อเหตุมาตั้งแต่ เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมให้การว่าได้นำปืนไปขายที่ไหน จำนำที่ใด โดยทำมาแล้ว 4-5 ปี จะทยอยนำปืนออกมาทีละ 2-3 กระบอก ทำให้ผู้บังคับบัญชาหากไม่ได้ตรวจโดยละเอียดก็จะไม่รู้ว่าปืนหายไป

เรื่องนี้เป็นบทเรียน ให้หัวหน้าสถานีตำรวจหรือผู้กำกับการทุกสถานีต้องเข้มงวดกวดขัน โดยตามหลักมีกฎเกณฑ์อยู่แล้วแต่ขึ้นอยู่กับคนปฏิบัติและความใส่ใจ จากนี้ต้องตื่นตัวกับทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องอาวุธปืน แต่อาวุธปืนถือเป็นสิ่งอันตราย เมื่อไปอยู่ในมือของคนไม่ดี ก็อาจจะใช้นำไปก่อเหตุอาชญากรรมหรือเหตุต่างๆ ได้

จากนี้หากพบว่าผู้กำกับคนไหนมีความบกพร่อง ก็จะมีหนังสือสั่งย้ายทันที พร้อมยอมรับว่า วันนี้ความเชื่อมั่นของประชาชนอาจจะไม่ไว้วางใจ แต่ตำรวจก็ต้องทำให้มีหลักเกณฑ์ กติกา ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อบกพร่องต้องลงโทษตามข้อเท็จจริง

มั่นใจว่าภายใน 2-3 วัน จะสามารถนำปืนกลับมาได้จนครบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปูพรมค้นหาตั้งแต่คืนที่ผ่านมา และจะสอบสวนให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤตมิชอบ ภาค 1 ที่ จ.สระบุรี ในช่วงเที่ยงวันนี้ (21 ต.ค)