หนุ่มเครียด ปีนลานจอดรถชั้น 4 ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบื้องต้นทราบว่า ต้องการเดินทางมาร้องเรียนเพราะถูกเต็นท์รถหลอกดาวน์รถไปขายต่อ

วันที่ 21 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุประชาชนจะกระโดดจากที่สูง ภายในอาคารจอดรถสูง 5 ชั้น โดยที่ชั้น 4 ชายคนดังกล่าวได้ปีนราวกั้นขึ้นไปนั่งคร่อม ขณะที่ภรรยาเดินทางมาด้วยอาการตื่นตระหนก น้ำตาคลอ และแจ้งว่าสามีหายออกจากบ้านไป 2 วัน โดยฝากลูกให้คนอื่นเลี้ยง และนัดหมายให้มาเจอกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนกับตำรวจกรณีถูกเต็นท์รถหลอกดาวน์รถไปขายต่อ แต่เมื่อเช้าพอมาถึงยังไม่ทันได้เจอสามี เมื่อโทรศัพท์ไปสอบถาม สามีก็บอกว่าอยู่บนอาคารจอดรถจะกระโดดลงมาเพราะเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น หาทางออกไม่ได้

โดยทางภรรยาและผู้สื่อข่าวพยายามช่วยเกลี้ยกล่อมผ่านทางโทรศัพท์ว่าให้ลงมาคุยกันด้านล่าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขึ้นไปเจรจาด้านบน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าชาร์จตัวชายคนดังกล่าว และช่วยเหลือลงมาได้

ด้านภรรยา เปิดเผยว่า ตนได้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ ผ่อนมาได้ 20 งวด งวดละประมาณ 20,000 บาท แต่ช่วงโควิดที่ผ่านมาตกงาน ทำให้ครอบครัวมีรายได้น้อยลง ซึ่งพยายามผ่อนรถต่อมาตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว ค้างผ่อนชำระมา 5 งวด เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว จึงตัดสินใจจะขายดาวน์รถ สามีจึงโพสต์ประกาศขายในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็ได้มีเต็นท์รถแห่งหนึ่งติดต่อมาว่าสนใจ และนัดเข้ามาดูรถที่บ้าน เมื่อมาถึงก็ตัดสินใจจะซื้อทันที และตกลงรายละเอียดกันว่าจะจ่ายเงินดาวน์ 136,000 บาท แต่ทางเต็นท์ขอทำสัญญาว่า ขอเวลา 3 เดือน หากขายรถได้จึงจะเปลี่ยนสัญญาให้ผู้ซื้อ แต่หากภายใน 3 เดือนยังขายไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนสัญญานำรถเข้าเต็นท์ โดยในระยะเวลา 3 เดือนนี้ เต็นท์จะเป็นผู้จ่ายค่าผ่อนรถให้เอง หากผิดสัญญาจะชดเชยให้ 3 เท่า ตนจึงตกลง 

จากนั้นวันรุ่งขึ้น คือ 28 มิ.ย. 2565 คนของเต็นท์รถก็มารับรถไป และตนก็ไม่ได้ติดตามรถอีก เงินดาวน์ที่ได้มาก็นำไปจ่ายค่างวดที่ค้างไว้ทันที และเต็นท์รถก็จ่ายค่างวดถัดไปมาให้ จนกระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาถามว่า ตนเป็นเจ้าของรถใช่หรือไม่ โดยอ้างว่า ซื้อรถตนจากเต็นท์ที่นครสวรรค์ แต่เต็นท์ไม่ยอมโอน บอกว่าเจ้าของไม่ยอมโอนให้ ตนจึงเอะใจติดต่อไปยังเต็นท์รถ ทางเจ้าของก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปคุย เดี๋ยวเต็นท์จะจัดการเรื่องสัญญาให้ และได้นัดวันเปลี่ยนสัญญา แต่พอถึงวันก็เลื่อนนัด อ้างว่า เช็คไม่พร้อม โดยเลื่อนนัดถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 ก็ไม่สามารถติดต่อทางเต็นท์ได้อีกเลย ส่วนทางลูกน้องของเต็นท์รถก็บอกว่า รถไม่ได้อยู่ที่เต็นท์แล้ว ตนจึงรู้ตัวว่าโดนหลอก ก็เลยไปค้นหาข้อมูลดู พบว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันจากเต็นท์รถนี้อีกจำนวนมาก

โดยล่าสุด ตนทราบแล้วว่ารถอยู่ที่ใคร เพราะมีคนส่งรูปมาให้ดู ว่ามีการนำรถตนไปประกาศขาย จึงตามไปเจอกับคนที่ครอบครองรถอยู่ตอนนี้ ซึ่งบุคคลดังกล่าว ยืนยันว่า ซื้อรถมาอย่างถูกต้อง จากเต็นท์รถที่อำเภอปากช่อง ในราคา 890,000 บาท และหากตนต้องการรถคืนก็ให้จ่ายเงินในราคานี้ ทำให้ตอนนี้ตนเครียดมาก ก่อนหน้านี้ได้เคยพยายามจะไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่รับแจ้งความ อ้างว่าตนผิดฐานยักยอกรถไฟแนนซ์ไปขาย ทั้งที่ตนก็จ่ายค่างวดครบตามปกติแล้ว