จากกรณีหนุ่มพาแฟนสาวขับรถไปรับจ้างขนยาเสพติดจากจังหวัดหนองคายเข้ากรุงเทพฯ แต่เจอด่านตรวจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มแล้วหลบหนี ปล่อยแฟนสาวถูกจับ ตกค่ำยอมมอบตัวอ้างรักและเป็นห่วงแฟน
วันที่ 25 ตุลาคม 2565 พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 4 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด จากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองหนองคาย ตั้งด่านตรวจหนองสองห้อง ฝั่งขาออกหนองคาย ก็พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อแวนซ่า สีดำ ขับมุ่งหน้ามาที่ด่าน แต่ก่อนถึงด่านตรวจประมาณ 50 เมตร กลับเลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมัน
“รถเก๋งคันดังกล่าว เลี้ยวรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันกะทันหัน ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจเห็นพิรุธน่าสงสัย จึงติดตามไปตรวจสอบ ก็พบ นางสาวภาสินี อายุ 36 ปี นั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ ส่วนคนขับชื่อนายพัลลภ อายุ 30 ปี ได้หลบหนีไป จากนั้นตำรวจได้ตรวจค้นในรถเก๋งคันดังกล่าวพบกระเป๋าพลาสติกสีแดง 2 ใบที่ท้ายรถเก๋ง จึงตรวจสอบในกระเป๋าพบยาอีสีส้ม สีเขียว สีเหลือง บรรจุในถุงพลาสติกใส 15 ถุง รวมทั้งหมด 15,000เม็ด และยาอีชนิดผงบรรจุในซองเกลือแร่ยี่ห้อหนึ่ง 470 ซอง และยาเสพติดยี่ห้อ Frimin บรรจุในถุงพลาสติกสีเขียวและสีแดง 347 แผง และเคตามีน บรรจุในถุงพลาสติกสีเขียว จำนวน 10 ถุงๆ ละ 1 กิโลกรัวม รวมทั้งหมด 10 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท”
หลังตรวจค้น เบื้องต้นนางสาวภาสินี รับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตัวเองกับนายพันธุ์ลภ ซึ่งเป็นแฟนกัน มีผู้จ้างวานในราคา 50,000 บาท ขนยาเสพติดทั้งหมดจากจังหวัดหนองคายไปส่งที่จุดหมายในพื้นที่ภาคกลาง แต่มาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แฟนจึงขับรถเข้าในปั๊มน้ำมันและแฟนก็ทิ้งรถหลบหนีไป ต่อมาช่วงคืนวันที่ 24 ต.ค. นายพันธุ์ลภ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย โดยไปรับตัวที่ริมถนนในพื้นที่ตำบลค่ายบกหวาน
สอบสวนนายพันธุ์ลภ ให้การรับสารภาพว่า เคยถูกจับในคดียาเสพติดและติดคุกที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทำให้รู้จักกับนายตูมตาม เมื่อพ้นโทษออกมาก็ยังติดต่อกัน และนายตูมตามก็ว่าจ้างให้ขนยาเสพติดชนิดต่างๆ ไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง รับจ้างมาแล้ว 4 ครั้งๆ ละ 50,000บาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ขณะขับรถจะไปส่งของตามคำสั่งของนายตูมตามก็มาเจอด่านตรวจ จึงขับหลบเข้าไปในปั๊มน้ำมัน แล้วหลบหนีไป ส่วนยาเสพติดทั้งหมดเป็นเครือข่ายที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาส่งให้ ส่วนสาเหตุที่ไม่หนีต่อไปเพราะรักและเป็นห่วงแฟนสาว จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว
หลังการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ประเภท 2 (เคตามีน) และนำตัวส่งดำเนินคดี