ตำรวจบุกรังปั๊มป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม พร้อมตรวจค้น-ยึดของกลางกว่า 300 รายการ พบอุปกรณ์ครบ!
วันที่ 27 ต.ค.65 สืบเนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่มีผู้กระทำความผิดปลอมแปลงแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์หรือใช้กรอบทะเบียนรถยนต์แบบพลิกซ่อนเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการกระทำความผิด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ผอ.ศปจร.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามแหล่งผลิตป้ายทะเบียนรถยนต์และรถจักยานยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย พ.ต.ท.นพรัตน์ บุญถนอม พ.ต.ท.กฤษตฤณ นิระภัย พ.ต.ต.ภาส อัยยวร และ พ.ต.ต.หญิงชาดา เสสะเวช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปจร.น. ทำการสืบสวนจับกุมกระบวนการดังกล่าว
จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบถึงแหล่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมที่มีการปั๊มตัวอักษรย่อของกรมการขนส่งทางบก (ขส.) ลงบนแผ่นป้ายทะเบียนทะเบียนรถยนต์ซึ่งไม่ได้ออกโดยกรมการขนส่งทางบก ในวันที่ 26 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจึงได้นำกำลังเข้าค้นบ้านพักเลขที่ 40/3126 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้พบ นายรณชัย อายุ 46 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นพบ แผ่นป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ ที่มีลูกค้าสั่งไว้จำนวน 2 แผ่น และแม่แบบพิมพ์โลหะปั๊มอักษรย่อ ขส. รวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ภายในบ้านพักดังกล่าว จากการสอบถาม นายรณชัย ยอมรับว่าได้เปิดร้านรับซ่อมแซมแผ่นป้ายทะเบียน ชื่อ B&M Modify ถนนเลียบคลองสาม ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จึงได้สมัครใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นที่ร้านดังกล่าวด้วย ผลการตรวจค้นพบ เครื่องคอม้าใช้สำหรับอัดตัวอักษรลงแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 เครื่อง เครื่องปั๊มลงตัวอักษร ขส. จำนวน 1 เครื่อง แผ่นอะคริลิคตัวอักษรและเลขอารบิกจำนวนมาก รวมทั้งหมวดป้ายทะเบียนจังหวัดต่าง ๆ รวมของกลางกว่า 300 ชิ้น นายรณชัย ยอมรับว่าตนเองจะเดินทางมาผลิตแผ่นป้ายทะเบียนปลอมในช่วงเวลากลางคืน โดยมีการผลิตทั้งแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ทั่วไป แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ แผ่นป้ายทะเบียนรถบรรทุก ร่วมไปถึงแผ่นป้ายทะเบียนแท็กซี่ตามสนามบิน ซึ่งจะจัดส่งให้ลูกค้าผ่านช่องทางไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นจึงได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์ในการผลิตป้ายทะเบียนปลอมทั้งหมดกว่า 300 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวงเพื่อดำเนินการต่อไป
จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน ทราบถึงโทษของการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนปลอม อันเป็นความผิดฐาน "ปลอมเอกสารราชการ" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท สำหรับประชาชนที่นำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมมาใช้จะมีความผิดฐาน "ใช้เอกสารราชการปลอม" ตามมาตรา 268 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท เช่นเดียวกันผู้ปลอมเอกสารราชการ