ผบ.ตร.ขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงราย หลังตำรวจภูธรภาค 5 ระดมกวาดล้างจับอาวุธได้เกือบ 1,000 กระบอก เครื่องกระสุน 6,678 รายการ วัตถุระเบิด 2,223 รายการ
วันที่ 30 ต.ค 65 ที่กองบังคัการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ปปส. และผู้บริหารระดับสูงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม หลังจาก พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย หลังจากระยะหลังๆ เกิดอาชญากรรมสะเทือนขวัญที่มีการใช้อาวุธปืนก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง จนสร้างความสูญเสียและสร้างความหวาดกลัวเกิดขึ้นในหมู่ประชาชน
ระหว่างวันที่ 10-29 ตุลาคมที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยกองบังคับการสืบสวนฯ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ จึงได้ระดมกวาดล้างแบบปูพรมทั่วทุกพื้นที่ จนมีผลการปฏิบัติที่สำคัญประกอบด้วย 1.ตชด.335 และ ตำรวจภูธรภาค 5 จับยาบ้า 90,000 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 4 คน ยึดรถยนต์ที่ใช้กระทำผิด 2 คัน เหตุเกิดบริเวณสามแยกปากทางเข้าบ้านห้วยจะค่าน ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ส่วนคดีอื่นๆ ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุม 2,235 คดี ผู้ต้องหา 2,027 คน ของกลางยาบ้า 165,589 เม็ด ไอซ์ เฮโรอีนและเคตามีนจำนวนหนึ่ง อายัดทรัพย์สิน 408 รายการ มูลค่าประมาณ 16.41 ล้านบาท สมัครใจเข้ารับการบำบัด 102 คน คดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิดและเครื่องกระสุน จับกุม 1,958 คดี ผู้ต้องหา 1,226 คน ของกลาง อาวุธสงคราม 1 รายการ อาวุธปืนธรรมดา ไม่มีทะเบียน 942 รายการ อาวุธปืนธรรมดา มีทะเบียน 55 รายการ วัตถุระเบิด 2,223 รายการ เครื่องกระสุน 6,678 รายการ ส่วนการติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ จับกุม 544 หมาย ผู้ต้องหา 508 คน ผลการปิดล้อมตรวจค้นตามข้อร้องเรียน จับกุม 22 คดี ผู้ต้องหา 19 คน ของกลางยาบ้า 3,803 เม็ด ไอซ์ 75 กรัม ทรัพย์สินที่ยึดได้เป็นรถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าเป็น 741,000 บาท
หลังการแถลงข่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง รวมทั้งกรณีที่อาจจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่างๆ ว่า นโยบายของรัฐบาลและนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเอาจริงเอาจังปราบปรามการกระทำความผิดในทุกรูปแบบ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร โดยเฉพาะหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาดรวมทั้งดำเนินการทางวินัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะบูรณาการกับทุกหน่วยงานดำเนินการทุกรูปแบบ เพื่อเป้าหมายสำคัญคือให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนั้นยังจะได้ประสานประเทศเพื่อนบ้านในการปราบปรามยาเสพติดร่วมกันด้วย