มท1. รับเอง!! กฎหมายขายชาติล้มได้หากประชาชนไม่สบายใจ ชี้ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าเพราะยึดประโยชน์ชาติเป็นหลัก แต่ยืนยันไม่มีเจตนาขายชาติหรือเอื้อนายทุน
วันที่ 3 พ.ย. 2565 นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ตั้งกระทู้สดถามคณะรัฐมนตรี กรณีออกกฎกระทรวง เปิดทางให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้ แลกกับการลงทุน 40 ล้านบาท ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์และมีความวิตกกังวลเรื่องการอนุญาตให้ตั้งชาติถือครองที่ดิน ว่าจะเป็นการเปิดช่องให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของที่ดินเหมือนการขายชาติ ทั้งที่คนไทยกำลังอ่อนแอและอีกจำนวนไม่น้อยกว่า 80% ที่ยังไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง จึงอยากถามคณะรัฐมนตรีว่า มีความจำเป็นหรือมีเหตุผลอะไรที่หนักหนาสาหัส ต้องมีมติ ครม.ออกมาแบบนี้ และแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านมาก็ดำเนินการเพราะมีข้อจำกัดจากกู้เงินไอเอ็มเอฟ ซึ่งก็ทำด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ
โดยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะตัวแทนรัฐบาล เป็นผู้มาตอบกระทู้ กล่าวว่า สาเหตุที่รัฐบาลมีมติดังกล่าว เป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ โควิด-19 คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ จึงมองหาวิธีการในการดึงคนต่างชาติเข้ามาลุงทุน เพิ่มศักยภาพในการค้า การลงทุน แต่การซื้อขายที่ดินต้องทำขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด จะต้องมีวีซ่าระยะยาวที่ทำให้สำหรับนักธุรกิจก่อน และต้องลงทุน 40 ล้านบาทขึ้นไปในระยะเวลาขั้นต่ำ 3 ปี และในระหว่างสามปีนี้ก็ไม่สามารถขายที่ดินได้ ยืนยันว่า มีการคัดกรองและมีมาตรการรัดกุมมากกว่าในอดีต
พลเอกอนุพงษ์ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไม่มีเจตนาจะขายชาติ ไม่มีใครคิดเช่นนั้น ไม่ได้เปิดให้ต่างชาติยึดครองที่ดิน ส่วนที่หลายคนกังวลว่า อาจมีการซื้อที่ดินหรือบ้านจัดสรรหลายแปลงติดกันเพื่อรวมเป็นที่ผืนใหญ่ ยืนยันว่า ไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้นแน่นอน และร่างกฎกระทรวงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนซึ่งกฤษฎีกากำลังดำเนินการ และหลังจากความรับฟังความคิดเห็นอาจจะกำหนดเงื่อนไขเพิ่มก็ได้
"เรื่องนี้อาจจะล้มไปก็ได้หากประชาชนไม่สบายใจ หรือมีความกังวล และหากเรื่องนี้ยกเลิกไปก็ไม่ใช่เรื่องขายหน้าของรัฐบาลเพราะถือว่าเป็นประโยชน์ของชาติเป็นหลัก" พลเอกอนุพงษ์ กล่าว
จากนั้น นายสุทิน ถามต่อว่า จากการชี้แจงของพลเอกอนุพงษ์ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลยอมรับว่าประเทศจนปัญญาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะโดยทั่วไปจะไม่ใช้มาตรการนี้ หรือรัฐบาลต้องการช่วยและเอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนใหญ่ที่ครอบครองที่ดินไว้เป็นจำนวนมากหรือไม่ โดยเทียบเคียงกับกฎกระทรวงที่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อห้องชุดได้ 100% ที่สามารถขายห้องชุดให้ต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งรัฐบาลมีมาตรการอย่างไร ควบคุมราคาที่ดินไม่ให้คนไทยต้องซื้อที่ดินแพงขึ้น หาก ต่างชาติครองที่ดินจำนวนมาก
ทำให้พลเอกอนุพงษ์ ชี้แจงต่อว่า ไม่อยากให้มองรัฐบาลจนมุมแล้ว ต้องใช้วิธีการนี้แต่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะต้องทำทุกอย่างทุก และไม่อยากให้กังวลไปก่อนขอให้มองโลกในแง่ดีบ้าง หากเป็นข้อห่วงใยตนรับได้ พร้อมยืนยันว่า การออกกฎกระทรวงดังกล่าว รัฐบาลไม่ได้เอื้อกลุ่มทุน ไม่อุ้มใคร และไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น พร้อมย้ำว่าต่างชาติไม่สามารถซื้อห้องชุดได้ 100% ตามที่นายสุทินยกตัวอย่าง ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้กฎหมายเดิม
นายสุทิน ถามอีกว่า แม้หลายประเทศจะเคยทำมาแล้ว แต่ก็มาเปรียบเทียบกับประเทศไทยไม่ได้เพราะโครงสร้างแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ไม่มีฝรั่งคนไหนยอมเป็นนอมินีให้คนไทย แต่มีคนไทยจำนวนมากยอมเป็นนอมินีให้ต่างชาติ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของโครงสร้างประเทศไทย ดังนั้น จึงอย่าไปคิดว่าต่างชาติทำได้เราก็ทำได้ รัฐบาลมีการคำนึงถึงเรื่องนี้หรือไม่
พลเอกอนุพงษ์ จึงย้ำว่า รัฐบาลพิจารณาทุกอย่างด้วยความรัดกุมรอบคอบ เพื่อรักษาประโยชน์ชองประชาชน