นักธุรกิจแม่ลูกอ่อนประสบอุบัติเหตุรถตกถนน หลังมีรถสวนทางเปิดไฟสูง จากนั้นมีชาย 2 คน ปรี่เข้ามาที่รถพร้อมเชิดเงินที่เตรียมซื้อยางพารา กว่าล้านบ้านวิ่งหนีไปในความมืด

ร.ต.อ. นพคุณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลจากกรณีรับแจ้งจากวิทยุ 191 จาก น.ส.ณัฐณิชา ผู้ขับขี่รถตกถนน บริเวณทางโค้งปั๊มชูเพิ่มทรัพย์ ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหวจังหวัดชัยภูมิ เบื้องต้นผู้ประสบเหตุแจ้งว่าเงินสดในกระเป๋าจำนวนล้านสามหายไปโดยก่อนเกิดเหตุตอนขับรถมาตามถนนสายชัยภูมิ- นครสวรรค์ โดยเดินทางมาพร้อมกับลูกชาย อายุ 5 ขวบ จากตัวเมืองชัยภูมิ จะกลับบ้านที่ตำบลโป่งนกเวลาประมาณ 20.30 น. ของคืน วันที่4 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เมื่อถึงบริเวณทางโค้งเลยศูนย์เด็กเล็กบ้านโคกสะอาดประมาณ 500 เมตรได้เกิดขับรถสวนกับรถกระบะคันหนึ่งตกถนนและมีชาย 2 คนมาเคาะประตูรถยนต์คิดว่าเขามาช่วยถึงเปิดประตูโดยระหว่างนั้นได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบอกพิกัดจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันก็มีชาย 2 คนเดินเข้ามาเคาะประตูรถคิดว่าเป็นพลเมืองดีมาช่วยเหลือจึงเปิดประตู นอกจากชายดังกล่าวจะไม่ได้เข้าช่วยตนเองแต่กลับเอาเงินสดในรถจำนวนล้านสามหายไปจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

 

ด้านพลตำรวจตรีฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.หนองบัวระเหวแล้ว และมีคำสั่งให้เร่งรัดติดตามคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีที่กระทำต่อเกษตรกร ชาวสวนยาง ที่รอขายยางพารา จำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะสามารถคลี่คลายได้เร็ววันนี้

 

ล่าสุดในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานกลุ่มชัยมงคลยางพารา ซึ่งเป็นบ้านพักของนางสาวณัฐณิชา เมื่อเดินทางไปถึงพบว่ามีชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสวนยาง ที่นำยางพารามาขาย ช่วยกันนำร่างของนส.ณัฐณิชา ขึ้นไปนอนบนแคร่ไม้ไผ่ พร้อมก่อไฟไว้ด้านล่าง ทำการย่างสด รักษาตามความเชื่อโดยสภาพของนางสาวนัฐณิชา ยังอยู่ในอาการตกใจและเคลียดกับเงินที่หายไป โดยนางสาวณัฐณิชา เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนพร้อมกับลูกชายขับรถมาตามถนนสายชัยภูมิ-นครสวรรค์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เดินทางเป็นประจำซึ่งตนมีบ้านพักอยู่สองหลัง โดยหลังที่อยู่ขณะนี้ตั้งอยู่ที่บ้านชัยมงคล ตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิต เปิดเป็นลานรับซื้อขายยางพาราด้วย ส่วนบ้านอีกหลังอยู่ในเทศบาลเมืองชัยภูมิ โดยตนจะพาลูกชายมานอนบ้านในเมืองทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และจะเดินทางกลับบ้านที่บ้านชัยมงคลทุกเย็นวันศุกร์เป็นประจำ ส่วนการซื้อขายยางพารานั้นจะซื้อขายเดือนละสองครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็จะรับซื้อยางพาราจากชาวสวนในวันเสาร์ ตนก็จะทำการเบิกเงินสดจากธนาคารเพื่อนำมาซื้อยางพารากับสมาชิก ซึ่งครั้งนี้เบิกมาจำนวน1.3ล้านซึ่งจะมีทั้งแบงค์และเหรียญ บรรจุในกระเป๋า ปกติก็จะกลับไม่เกิน 5-6 โมงเย็น แต่วันที่เกิดเหตุต้องรอรับลูกชาย ที่ติดซ้อมฟุตบอลอยู่จึงกลับค่ำ เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ามีรถยนต์สองคันวิ่งแซงกันมา ตนชะลอความความเร็วลง  และมีอีกคันที่แฉลบมาจะชนรถยนต์  ตนจึงตัดสินในหักหลบลงข้างถนนโชคดีที่ควบคุมรถได้และเป็นบริเวณที่เรียบ หลังจากนั้นตนได้รีบแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งใช้เวลาติดต่อกันนานพอสมควร ขณะเดียวกันกับมีชาวบ้านเป็นผู้ชาย2คน เดินมาที่รถพร้อมกับเคาะประตูตะโกนถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม ตนคิดว่าเป็นคนมาช่วยจึงเปิดประตูและบอกไปว่าช่วยหนูด้วย ขณะเดียวกันก็ก้มเก็บข้าวของที่ร่วงหล่น รวมทั้งเงินสดหลายมัดเข้ากระเป๋า ตนสังเกตุเห็นว่ามีผู้ชายอีกคนอ้อมไปอีกด้านฝั่งตรงข้ามคนขับ และคว้ากระเป๋าใส่เงินและวิ่งหนีไปทั้งสองคน ในความมืด ตนยังอยู่ในอาการตกใจประกอบกับเป็นห่วงสวัสดิการทั้งตนและลูก ได้แต่นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงตนรู้สึกโล่ง

 

เช่นเดียวกับเด็กชายกิตติคุณ ลูกชายของนส.ณัฐณิชา ก็พูดตรงกันว่าขณะนั่งเล่นโทรศัพท์ รถมีลักษณะวิ่งไต่ลูกระนาดถนน จากนั้นก็วิ่งฝ่าต้นไม้และมาจอดนิ่ง ตนรู้สึกกลัวมาก เพราะแม่โทรศัพท์หาตำรวจนานมากเกือบ10-20นาที มีโจรเดินมาที่รถสองคน ได้ยินแม่พูดกับโจรว่าช่วยหนูด้วย หนูก็ตกใจและเอาผ้าห่มคลุมหัวไว้

 

อย่างไรก็ตามในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาสอบปากคำ นส.ณัฐณิชา เพิ่มเติม ใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า2ชั่วโมง จึงเดินทางกลับและไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ