เพจดังเผยเหตุผล ที่มนุษย์ไม่ควรเอาค้างคาวมาเป็นอาหาร บอกเป็นพาหะแหล่งโรคร้าย
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อมีการทำคอนเทนต์กินซุปค้างคาว จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์
เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า สาเหตุที่มนุษย์ไม่ควรเอาค้างคาวมาเป็นอาหาร นอกจากค้างคาวจะเป็นพาหะของโรคร้ายแรงสารพัด ตั้งแต่ อีโบลา นิปาห์ พิษสุนัขบ้าแล้ว ค้างคาวหลายชนิด ยังจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในบ้านเราด้วย และค้างคาวยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบนิเวศ ที่ช่วยในการผสมเกสรดอกไม้ ถ่ายละอองเรณู ขี้ค้างคาวยังเป็นปุ๋ยอย่างดีให้กับพืชพรรณ และช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วย
อีกทั้งยังมีการวิจัยพบว่า การกินเนื้อค้างคาว มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคทางระบบประสาท Lytico-bodig disease หรือโรค amyotrophic lateral sclerosis-parkinsonism-dementia (ALS-PDC)
พูดง่ายๆ คือเป็นภาวะที่สมองเกิดการเสื่อม คล้ายๆ ภาวะอัลไซเมอร์ อาการคือ มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว มือเท้าสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ความจำเสื่อม ในรายที่เป็นหนักๆ ถึงขั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พูดสื่อสารไม่ได้ กล้ามเนื้อฝ่อ อ่อนแรง จนเป็นผู้ป่วยติดเตียง
โรคนี้พบในเกาะกวม ที่มีการบริโภคค้างคาว สูงกว่าที่อื่นๆในโลก เกือบร้อยเท่า และมีการศึกษาจนพบสาเหตุแล้วว่า เกี่ยวข้องกับการบริโภคค้างคาว ที่กินผลไม้ชนิดหนึ่งในท้องถิ่นเป็นอาหาร พอคนกินค้างคาว ที่ร่างกายมีสารที่เกิดจากการกินผลไม้ตัวนั้นเข้าไปสะสมในร่างกาย ก็ทำให้เกิดโรคดังกล่าว ค้างคาวเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มนุษย์เราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยประการทั้งปวง ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด