"ทนายไพศาล" พา "สาวหล่อ" ร้องกองปราบฯ ปมถูกนายจ้างข่มขู่ขืนใจ ร่วมหลับนอนมีเพศสัมพันธ์แบบ 3 คนผัวเมีย
วันที่ 10 พ.ย. 2565 เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวตสอบสวนกลาง "ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์" พา "น.ส.เอ๋" ผู้เสียหาย (สาวหล่อ) พบ พงส.บก.ป.แจ้งความดำเนินคดีกับคู่สามีภรรยานายจ้างในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราและข่มขืนใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด
โดย น.ส.เอ๋ สาวหล่อคนดังกล่าวทำงานอยู่ในบริษัท โลจิสติกส์มีชื่อเสียง มูลค่าบริษัทหลายร้อยล้านบาท โดย มีเจ้าของบริษัทคือนาย จ. และ นาง บ. เป็นสามีภรรยากัน มีบุตร 3 คน
วันหนึ่ง นาง บ. กับ น.ส.เอ๋ สาวหล่อ ทำงานร่วมกัน พูดคุยจนเกิดความรู้สึกดีๆ ให้กัน ก็มีการให้เงิน ช่วยเหลือกันตามเสน่หา โดยเป็นการโอนทีละนิด ทีละหน่อยมาเรื่อยๆ ยอดรวมประมาณ 500,000 บาท เวลาผ่านไป นาย จ. เจอแช็ตที่สาวหล่อ คุยกับภรรยา เห็นการโอนเงินให้กัน เลยให้ภรรยาโทรเรียก น.ส.เอ๋ สาวหล่อมาคุย เพื่อตกลงจะเคลียร์กันเรื่องนี้ แต่เมื่อพบกัน นาย จ. กลับไม่พูดเรื่องเงินทอง แต่กลับชวน น.ส.เอ๋ สาวหล่อให้เป็นภรรยาคนที่สอง น.ส.เอ๋ สาวหล่อจึงปฏิเสธ ขอชดใช้เงินจำนวนนั้น
จากนั้น น.ส.เอ๋ สาวหล่อก็นำเงินไปคืน แต่นาย จ.ไม่รับ บอกว่าไม่ได้ต้องการเงิน ต้องการให้ชดใช้เป็นอย่างอื่น ก็คือตัว แต่ น.ส.เอ๋ ปฏิเสธ วันหนึ่ง นาย จ.และนาง บ. ได้ชวน น.ส.เอ๋ สาวหล่อไปกินข้าว อ้างมีธุระจะคุยและตกลงกัน น.ส.เอ๋ สาวหล่อจึงไปพบเพื่อเจรจาอีก แต่ทางนาย จ. แจ้งว่า ถ้าไม่ยอมมีอะไรด้วย จะแจ้งความและฟ้องร้อง น.ส.เอ๋ สาวหล่อเรื่องที่มาคบหาพูดคุยกับเมียเขา หลังกินข้าวเสร็จนาย จ. พาเลี้ยวเข้าโรงแรม และบังคับขืนใจ ข่มขืน น.ส.เอ๋ ต่อหน้านาง บ. แม้จะร้องขอก็ไม่หยุด หลังจากนั้นก็ขู่บังคับให้สนองความต้องการเช่นนี้ โดย น.ส.เอ๋ ไม่เต็มใจ แทบทุกวัน ที่สำคัญคือให้ น.ส.เอ๋ สาวหล่อมีเพศสัมพันธ์ ร่วมกันสามคนกับนาย จ. และ นาง บ.
ต่อมา นาย จ. และนาง บ. ได้ร่างสัญญาทาส ให้ น.ส.เอ๋ สาวหล่อยินยอมการเป็นสามีภรรยาร่วมกันสามคน เพิ่มการผูดมัด และพยายามพูดขู่เรื่องเงินที่นาง บ.ให้ น.ส.เอ๋ มา แต่สุดท้ายก็ไม่ต้องการเงิน แต่กลับเกลี้ยกล่อมให้สาวหล่อเลือกทางนี้ทางเดียวคือร่วมสังวาสแบบสามคนผัวเมีย และข่มขู่ด้วยสารพัดวิธี ทั้งร่างสัญญาให้เซ็น ข่มขู่ว่ารวย มีอำนาจ ไม่มีใครทำอะไรได้ มีทนายเก่ง ยังไงก็หนีไม่รอด ขู่ว่าจะแฉทุกอย่างให้อับอาย เขาอยากได้ต้องได้ เขามีคอนเนคชั่นเยอะ หนีไปไหนเขาก็จะตามไปเอาตัวมา นอกจากแฉแล้ว เขายังจะตามล่าตัวตลอดชีวิต ยังไงก็ไม่พ้น ต้องเลือกทางนี้ทางเดียวเท่านั้น กลางวันให้ น.ส.เอ๋ สาวหล่อทำงานที่บริษัท และคอยเฝ้ามองว่ามาทำงานหรือไม่ เวลาหลังเลิกงานก็จะเรียกตัวไปเสพสังวาสร่วมกัน 3 คนแทบทุกวัน ถ้าเรียกเมื่อไรก็ต้องมาสนองความต้องการทันที ภรรยาก็ไปด้วยทุกครั้ง แต่ห้ามคุยกันสองคน ภรรยาทำตามที่สามีสั่งทุกอย่าง ไม่มีการช่วยหรือพูดช่วยเหลือแต่อย่างใด จน น.ส.เอ๋ สาวหล่อมีเลือดออกที่ช่องคลอดตลอด
ที่ผ่านมา น.ส.เอ๋ สาวหล่อพยายามคิดจะหนี นาย จ. ก็ไปตามที่บ้านบิดา และส่งข้อความไปหาเพื่อนและญาติหลายคนของ น.ส.เอ๋ สาวหล่อทาง Facebook ว่า น.ส.เอ๋ สาวหล่อโกงเงินไป ให้ติดต่อกลับ พร้อมข่มขู่ว่า จะแฉเรื่องที่มาเป็นกิ๊กภรรยา ไปใน Facebookเพื่อนๆ หวังให้ น.ส.เอ๋ สาวหล่ออับอาย แต่พอ น.ส.เอ๋ คืนเงินให้ก็ไม่เอา น.ส.เอ๋ หมดหนทางจนต้องกลับมาหาผัวเมียคู่นี้ตามเดิม นาย จ. มีการจะเปิดบริษัทลูกและแจ้งว่าจะให้ น.ส.เอ๋ สาวหล่อดูแล และให้อยู่กัน24 ชม. และให้ น.ส.เอ๋ สาวหล่อเลือกว่า "จะเป็นคุณนายหรือเป็นอีตัว" ตอนนี้ น.ส.เอ๋ สาวหล่อ ได้หนีจากนาย จ. และนาง บ. มาหาคนช่วยแล้ว และนาย จ. กับ นาง บ. กำลังตามล่า เชื่อว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องดังอีกแน่ เพราะผัวเมียคู่นี้เป็นเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ดัง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความสอบปากคำ น.ส.เอ๋ ผู้เสียหายก่อนจะเรียกสองผัวเมียเจ้าของบริษัทฯ มาสอบปากคำดำเนินการตามกฎหมายต่อไป