ผู้เสียหาย 12 ราย รวมตัวแจ้งจับนักวิชาการพัฒนาชุมชน อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ปลอมเอกสารรองผู้ว่าฯ เรียกเงินผู้รับเหมาโครงการโคกหนองนาโมเดล รวมกว่า 4 ล้านบาท

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ผู้เสียหายรวม 12 ราย นำโดยนางสาวเกวลิน อายุ 33 ปี รวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ให้เอาผิดนางสาวชัชวาล อายุ 40 ปี ตำแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเขมราฐ ฐานปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ลงนามโดยนายอำเภอและรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อ้างโครงการ "โคก หนอง นา โมเดล" โดยมีการขอเบิกเงินในการดำเนินการล่วงหน้า 4,480,434 บาท แต่ภายหลังยอมรับว่าทำเอกสารทางราชการปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกลวงจริง และไม่มีการชดใช้เงินคืน โดยผู้เสียหาย บางรายได้รับผลกระทบหนักเนื่องจากมีหนี้สินติดตัวจากการถูกหลอกในครั้งนี้

จากการสอบสวนผู้เสียหาย ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนางสาวชัชวาล โดยได้นำหนังสือราชการเรื่องโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" กิจกรรมที่ 2 การพัฒนาพื้นที่ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ลงนามโดย นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หนังสือระบุว่า จังหวัดได้แจ้งอนุมัติโครงการดังกล่าว ประจำปี 2565 (งบเหลือจ่าย) โดยให้อำเภอเขมราฐดำเนินการตามโครงการจำนวน 100 แปลง ประกอบด้วย จำนวน 3 ไร่ 100 แปลงๆ ละ 104,000 บาท (หนึ่งแสนสี่พันบาทถ้วน) รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 10,400,000 บาท (สิบล้านสี่แสนบาทถ้วน) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 และขอให้อำเภอดำเนินการพร้อมนำส่งเงินประกันสัญญาให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2565

นอกจากนี้ยังได้นำหนังสือเรื่อง โครงการขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ ลงนามโดยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการขับเคลื่อนแนวทางเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (ZEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ เพื่อพัฒนาพื้นที่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน และ SME พัฒนาคนโดยแจ้งอนุมัติงบประมาณให้อำเภอดำเนินการโดยให้มีการขุดปรับพื้นที่แปลงต้นแบบ จำนวนทั้งสิ้น 160 แปลง ประกอบด้วย จำนวน 3 ไร่ 75 แปลงๆ ละ 104,000 บาท (หนึ่งแสนสี่พันบาทถ้วน) จำนวน 1 ไร่ 45 แปลงๆ ละ 45,200 บาท (สี่หมื่นห้าพันสองร้อยบาทถ้วน) โดยจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 - เดือนมิถุนายน 2566 และหากอำเภอมีความประสงค์ดำเนินการขุดปรับพื้นที่ ขอให้แจ้งจังหวัดพร้อมนำส่งเงินประกันสัญญาให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวันที่ 21 กันยายน 2565

ผู้เสียหาย เล่าว่า จากนั้นนางสาวชัชวาล ก็ได้เรียกไปทำสัญญาพร้อมเรียกเก็บเงิน อ้างว่าเป็นเงินประกันงาน ค้ำประกันงาน 5% ซึ่งผู้รับเหมาก็ไปจ่ายเงินให้ที่สำนักงานพัฒนาการอำเภอเขมราฐ ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชี มีสลิปการโอนเงิน แต่มาทราบภายหลังว่าถูกหลอก ตอนนี้เท่าที่ทราบมีผู้รับเหมาประมาณ 12 ราย สูญเงินแล้ว 4,480,434 บาท นอกจากนี้ยังมีผู้รับเหมารายอื่นที่ยังไม่ได้มาแสดงตัวว่าถูกหลอก คาดว่าความเสียหายน่าจะถึง 10 ล้านบาท

หลังจากที่รู้ว่าถูกหลอก ทางผู้รับเหมาไปติดต่อทวงถามขอเงินคืน ทางเจ้าตัวก็ยอมรับผิด และรับว่าได้ปลอมแปลงเอกสารลงชื่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 ท่านขึ้นมาเอง ส่วนเงินที่หลอกไปก็หามาคืนไม่ได้ จึงรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านนายสะอาด วงศ์รักษ์ นายอำเภอเขมราฐ กล่าวว่า นายอำเภอเอง ก็เป็นคนที่เสียหายด้วย เพราะถูกปลอมแปลงเอกสารด้วยเหมือนกัน และได้ไปแจ้งความนางสาวชัชวาล ไว้ที่ สภ.เขมราฐ ในข้อหาปลอมแปลงลายมือชื่อเอกสารทางราชการไว้แล้ว เบื้องต้นทางจังหวัดโดยสำนักงานพัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีคำสั่งให้นางสาวชัชวาลย้ายไปช่วยราชการที่กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว

พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ในคดีฉ้อโกง และข้อหาปลอมแปลงลายมือชื่อเอกสารทางราชการ โดยหากพบความผิดอื่นอีกจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม