น้ำเหล็กไหลควนเคี่ยม ครอบครัวเร่งปรับพื้นที่ย้ายจุดทำพิธีและตั้งเต็นท์จุดใหม่ พร้อมจัดระบบเหมือนฉีดวัคซีนโควิด ส่วนคนป่วยที่หายล่าสุดอดีตผู้ใหญ่บ้านป่วยติดเตียงไตวาย สามารถลุกนั่งกินอาหารพูดคุยได้
วันที่ 15 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ทางครอบครัวรักษ์วงศ์ ซึ่งมีนายริน อายุ 43 ปี ได้ปลุกเสกน้ำเหล็กไหลควนเคี่ยมรักษาผู้ป่วยจนโด่งดังมีผู้คนมาขอน้ำแต่ละวันหลายพันคน ซึ่งต่อมาทางสสจ.กระบี่ ได้เข้ามาเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อนำไปตรวจสอบและจะทราบผลประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่การจัดให้รับน้ำพบว่ามีความแออัดอย่างมาก ผู้คนเบียดเสียดกัน ทางครอบครัวของนายริน จึงได้ประกาศหยุดการทำพิธีชั่วคราว 15 วัน เพื่อหาแนวทางจัดระบบใหม่
ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายริน ที่หมู่ 7 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งพบว่าทางครอบครัวนายริน ได้ว่าจ้างรถแบคโฮมาปรับพื้นที่บริเวณเนินดินหลังบ้านของนายมิตร อายุ 89 ปีพ่อของนายริน เพื่อจัดสร้างอาคารสำหรับทำพิธีขึ้นมาใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากถนนที่เดิมผู้คนจะมายืนกันจนเต็มถนนห่างไปประมาณ 200 เมตร และกวาดต้นไม้รอบๆ สำหรับตั้งเต็นท์จำนวน 10 หลังรองรับคนได้ประมาณ 1000 คน และจัดทำสถานที่เข้าในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่มาขอน้ำเหล็กไหลต้องไปเบียดกันบนถนน ส่วนการจัดระบบคิวนั้น ยังคงให้ชาวบ้านมารับที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากระบบออนไลน์ไม่สามารถทำได้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ทุกค่าย
นายรัญ คู่แฝดนายริน เผยว่า ขณะนี้ได้เร่งทำสถานที่ขึ้นมาใหม่เพื่อไม่ให้ชาวบ้านที่จะเดินทางมาขอน้ำเหล็กไหลต้องเบียดเสียดกัน ซึ่งระบบคิวใหม่ที่จะทำขึ้นมานั้น ใช้แบบการฉีดวัคซีนโควิดของสาธารณสุข โดยจะให้ผู้มาขอน้ำเข้ามารอบละประมาณ 200 คน ทยอยมานั่งรอเก้าอี้ในเต็นท์ที่เตรียมไว้ 10 หลัง และจะเรียกเข้ามารับน้ำข้างเนินใกล้กับอาคารที่กำลังจะสร้าง ซึ่งคาดว่าจะลดปัญหาเบียดเสียดได้ ส่วนระบบน้ำที่จะทำให้นั้น คาดว่าน่าจะรองรับคนได้ประมาณแค่ 2500 คนต่อวัน หรือน้ำประมาณ 7500 ขวด ส่วนที่มีการนำน้ำไปตรวจนั้นเชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะน้ำที่นำมาปลุกเสกไม่ได้ใส่อะไรลงไปและเป็นน้ำที่ซื้อมาจากโรงน้ำดื่มที่ผ่านมาตรฐาน อย.แล้วด้วย
ส่วนคนที่นำน้ำไปดื่มและหายนั้นก็พบว่ามีจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดทางนางวิภาดา อายุ 46 ปี ได้เปิดเผยว่า ตนเป็นสะใภ้ของนายไพโรจน์ อายุ 82 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ซึ่งพ่อสามีป่วยเป็นอัมพฤกษ์ตั้งแต่ปี 45 และล่าสุด เกิดภาวะไตวาย ชัก ต้องเข้ารักษาที่ รพ.คึกคัก มีอาการเพ้อ ต้องมัดมือมัดเท้าควบคุมตัวเองไม่ได้ ทางครอบครัวทำใจแล้วว่าจะเสียชีวิต จึงได้พาตัวมากลับบ้านลุกเดินไปไหนไม่ได้ เป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่นานประมาณสัปดาห์หนึ่ง หลังจากนั้นสามีของตน ซึ่งเป็นลูกชายนายไพโรจน์ ได้ไปขอน้ำเหล็กไหลที่ จ.กระบี่ นำมาให้ดื่มเมื่อวันที่ 3 พ.ย. โดยรุ่งขึ้นปรากฏว่าสามารถลุกขึ้นนั่งได้ มีกำลังขึ้นมาสามารถกินข้าวได้สร้างความแปลกใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก และอาการดีขึ้นตามลำดับ จากนั้นสัปดาห์ต่อมาก็ได้เดินทางไปเอาน้ำเหล็กไหลอีกแต่คนมากเกินไปไม่ได้รับน้ำจึงกลับมาและรอให้ทางนายริน ทำน้ำก็จะไปขอรับอีก เพื่อให้พ่อสามีดื่มให้ครบ 9 ขวด ซึ่งแม้ว่าจะต้องไปตั้งแต่ค่ำก็คงต้องยอมไปเพื่อจะได้ให้แกหายจากโรคที่เป็นอยู่ และแพทย์ปัจจุบันหมดหนทางรักษา อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะพ่อสามีของตนเท่านั้นที่หาย มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งชาวบ้านเรียกยายหนู มีอาการปากเบี้ยวมานานหลายสิบปี กินน้ำเหล็กไหลดังกล่าวเข้าไป ปรากฏว่าหายปากไม่เบี้ยวแล้วด้วย