อุกอาจ! "แก๊งบังหนวด" ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด บุกงัดบ้านขโมยทรัพย์สินลูกหนี้ไปขาย พร้อมเขียนขู่หลังขาดส่ง 2 วัน ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก
วันที่ 15 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม ความคืบหน้ากรณีแก๊งเงินกู้บังหนวด ก่อเหตุอุกอาจ บุกรุกเข้าไปงัดบ้านพักของนายทวีศักดิ์ สิบแก้ว อายุ 27 ปี ตำบลนาทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้ เหตุเกิดขณะสองสามีภรรยา เจ้าของบ้านออกไปทำงานรับจ้าง หลังจากกลับจากทำงาน พบมีร่องรอยถูกงัดประตูหน้าบ้านเพื่อเข้าไปขโมยทรัพย์สิน จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ฝ่ายปกครองมาตรวจสอบ พบทรัพย์สินสูญหายจากบ้าน มีถังแก๊สหุงต้มมูลค่ากว่า 2,000 บาท เลื่อยโซ่ยนต์ราคา 3,500 บาท ลูกหมูตัดไม้ราคาประมาณ 1,100 บาท และโต๊ะไม้ราคาประมาณ 500 บาท เชื่อว่ามีคนมาลักขโมยไป จนกระทั่งทราบภายหลังว่า มีแก๊งเงินกู้ชื่อ "แก๊งบังหนวด" มาบุกงัดบ้านลักทรัพย์ออกไปจากบ้าน เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าของบ้านค้างชำระเงินกู้ โดยกู้มาจำนวน 10,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนตามกำหนด 24 วัน ต้องชำระคืนวันละประมาณ 500 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน แต่ไม่มีเงินส่ง คืน 2 วัน รวม เป็นเงิน 1,000 บาท จึงถูกบุกมาข่มขู่งัดบ้าน ลักทรัพย์สินออกไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.65 ที่ผ่านมา
ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดีแก๊งเงินกู้บุกงัดบ้านลักทรัพย์สินลูกหนี้ ได้ระดมตำรวจทีมสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส จากคำให้การของลูกหนี้ รวมถึงหลักฐานจากหมายเลขโทรศัพท์ ที่มีการเขียนข่มขู่ให้ลูกหนี้โทรกลับ รวมถึงนามบัตรที่แจกให้ลูกค้า จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ จำนวน 2 ราย คือ 1.นายกฤษณะ รู้ระวัง อายุ 27 ปี และ 2.นายอัมรินทร์ พัดไสว อายุ 23 ปี คุมตัวส่ง ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีฐานความผิด 4 ข้อหา มี 1.บุกรุกเคหะสถาน 2.ลักทรัพย์ 3.ทวงถามหนี้โดยการทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง 4.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายกำหนด ทั้งนี้ทางผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ติดต่อลูกหนี้ไม่ได้ โดยทางตำรวจจะได้สรุปพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมสอบสวนขยายผลกวาดล้างกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบ ที่ปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด รวมถึงสร้างความเดือดร้อน ข่มขู่คุกคามชาวบ้าน หากประชาชนได้รรับความเดือดร้อนหรือพบเบาะแสกลุ่มนายทุนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว สามาถแจ้งผู้นำท้องถิ่นหรือสายตรงโทร 191