สาวสุดช้ำ! แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเรียกเก็บภาษีคนละครึ่ง ดูดเงินหมดบัญชีร่วมแสน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ thanattha klinsukon ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเตือนภัยถึงกรณีถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ไม่นานพบว่าเงินถูกดูดออกจากบัญชีธนาคารทุกบัญชี
โดยระบุว่า
"สวัสดีค่ะ อยากให้ทุกคนอ่านให้จบถึงมันจะดูยาวไปหน่อย เพราะเจอมากับตัวจริงๆ
คือเรื่อง ที่แอมเจออยากจะมาโพสต์เตือนภัยทุกคนแบบละเอียด เพราะส่วนตัวคิดว่ามันใกล้ตัวเรามากจริงๆ
วันเกิดเรื่อง วันที่ 10 พ.ย. 65 โดยมีเบอร์แปลกโทรมาบอกว่าคือกรมสรรพากร มันโทรมา มันรู้ชื่อจริงเรา รู้ว่าเราทำงานอะไร ซึ่งมันบอกว่าแอมใช้โครงการคนละครึ่งใช่มั้ย เราก็บอกว่าใช่ แล้วมันก็บอกว่า ตอนนี้กรมสรรพากรกำลังจะเรียกเก็บเงินภาษีย้อนหลังของแม่ค้าพ่อค้าที่สมัครคนละครึ่งไป ด้วยความที่เราก็เชื่อเพราะมันมาตรงกับสิ่งที่เราทำจริงๆ บวกด้วยเราก็กลัวว่าจะมีภาษีย้อนหลังจริงๆ มันบอกว่าต้องเข้าไปกดลิ้งค์ เพื่อยกเลิกคนละครึ่ง มันจะโทรคุยกับเราตลอดโดยมันส่งวิธีขั้นตอน การทำมาแบบละเอียด และมันคุยกับเราตลอดทุกขั้นตอนการทำจริงๆ เราเองก็ไปหลงเชื่อมันทำตามทุกอย่าง มันบอกว่าให้เข้าไปที่แอปกรุงไทยเดี๋ยวจะมีพนักงานกรุงไทยส่งรหัสมาให้เรา มันให้เรายืนยันตัวตนโดยการใช้เลขบัตรประชาชน แสกนใบหน้า ซึ่งเราคิดว่ากำลังติดต่อกับพนักงานจริงๆ เพราะไม่คิดว่ามันจะทำได้ขนาดนี้ พอทำตามที่มันบอกเสร็จ ปรากฏว่าเงินในบัญชี โดนดูดออกไปหมดเลย และที่สำคัญถ้าในโทรศัพท์เรามีแอปธนาคารกี่แอปมันสามารถดูดออกไปได้ทุกธนาคารทั้งๆ ที่เราไม่ได้เข้าไปกดโอนเงิน
อยากให้ทุกคนระวังเพราะมันไม่ได้มีแค่หลอกเท่านี้ คิดว่าจะมาอีกหลายรูปแบบไม่รู้ว่ามันรู้ข้อมูลเราขนาดนี้ได้ยังไง อยากให้ช่วยเตือนกัน เผื่อสำหรับใครที่ยังไม่รู้หรือคิดแบบเรา ว่ามันไกลตัวเราคงไม่เกิดขึ้น จะบอกว่าไม่จริงเลย คนที่เป็นห่วงเราก็ถามว่าทำไมไม่ได้ดูข่าวหรอข่าวออกเตือนกันเยอะมาก คือจะบอกว่ามันก็คือความผิดเราด้วยส่วนนึงที่ไม่ค่อยได้ดูข่าวเลย เราแค่คิดว่ามันไกลตัวเรา
สำหรับโพสต์นี้อยากให้ทุกคน ที่ยังไม่รู้หรือว่าคิดว่ามันไกลตัวให้ระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิมเยอะๆเพราะคนพวกนี้มันรู้ว่าเราทำงานอะไร ครั้งนี้ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนตัวเองว่าทำอะไรให้มีสติ รอบคอบมากกว่าเดิมเพราะเงินที่เสียไปมันไม่สามารถเอากลับมาได้อีกแล้ว
จริงๆไม่อยากโพสต์กลัวคนจะมองว่าเราโง่ แต่ก็โง่จริงๆที่เสียรู้พวกนี้ เราแค่เห็นว่าคนเริ่มโดนกันเยอะขึ้นทุกวัน แล้วมันเกิดขึ้นจริงๆกับตัวเราเอง เลยอยากโพสต์ให้คนอื่นระวังตัวกันมากขึ้นกว่าเดิม"
ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง น.ส.ธนัดฐา หรือแอมป์ อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว มีอาชีพธุรกิจส่วนตัว
น.ส.ธนัดฐา เล่าว่า หลังจากกรอกข้อมูลตามลิงค์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งมาเงินก็ถูกดูดออกจากบัญชี เป็นจำนวนกว่า 120,000 บาท จึงได้รู้ตัวว่าถูกหลอก หลังจากรู้ตัวว่าถูกหลอกก็พยายามติดต่อไปหาธนาคารเบื้องต้นธนาคารให้ไปแจ้งความ แต่เมื่อไปแจ้งความที่ สภ.นครนายก ตำรวจกลับบอกว่าไม่สามารถทำอะไรได้ในคดีลักษณะนี้ ให้แจ้งความออนไลน์หาตำรวจไซเบอร์โดยตรง จึงบอกว่าจะไปอายัดบัญชี ทางเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า เดี๋ยวทางตำรวจไซเบอร์ที่เรากรอกข้อมูลไปในเว็บจะเป็นคนแจ้งอายัดให้เราเอง
น.ส.ธนัดฐา เล่าต่อว่า เมื่อแจ้งความออนไลน์เป็นที่เรียบร้อยแล้วประมาณ 15 นาทีก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจไซเบอร์แจ้งว่าให้รอ 10-15 วัน จะเรียกให้ไปสอบปากคำ แต่ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องแจ้งอายัดบัญชีแต่อย่างใด ทำให้คุณแอมป์เป็นกังวลเนื่องจากว่าระยะเวลา 10-15 วันเงินอาจจะถูกโอนต่อไปจนไม่สามารถนำกลับคืนมาได้
นอกจากนี้ คุณแอมป์ ยังเปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีกว่าเป็นเงินเก็บที่หามาทั้งชีวิตตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก เพราะไม่รู้จะหันไปทางไหนเกรงว่าจะไม่ได้เงินคืน