คนไทยได้เฮ!เอกชนอุ้มลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกครบ 64 นัด หลังเจรจาปิดดีลจบที่1,200ล้านบาท
ความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 ธ.ค. 65 หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนวิจัย และพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม ที่ กกท. เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท ทำให้ กกท. ต้องหาภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาท
ล่าสุด "บิ๊กก้อง" ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ได้เจรจากับฟีฟ่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นข่าวดีของแฟนบอลชาวไทย ที่จะได้ชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 ครบทั้ง 64 แมตช์ในโอกาสนี้ ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานบอร์ด กกท. และประธานบอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ช่วยประสานงานเรื่องงบประมาณกับ กสทช. และภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) ที่ช่วยพูดคุยกับ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในฐานะที่เป็นไอโอซีเมมเบอร์ ด้วยกัน จนทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดี
โดยขั้นตอนจากนี้ไป จะดำเนินการในเรื่องของขั้นตอนการลงนามสัญญา เพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนเกมนัดแรก จะเริ่มวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ทั้งนี้ กกท. กับ ฟีฟ่า เจรจาจบลงที่ลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 36 บาท)
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีนัดประชุมบอร์ดวาระเร่งด่วน วันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณางบประมาณ ในเรื่องของการนำไปสมทบลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 เพิ่มเติม (พลางก่อน) ตามการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมของ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ซึ่งกองทุนฯ จะไม่สามารถอนุมัติเงินให้ได้ในรูปแบบเงินยืม แต่หากเป็นการให้การสนับสนุนแบบมีเงื่อนไข คือ มีรายได้ต้องคืนกองทุนฯ เต็มจำนวน หลังจากได้รับเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนเรียบร้อยแล้ว และต้องแจกแจงรายได้ แหล่งที่มารายได้ และแผนการจัดการรายได้ ก็สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมบอร์ดกองทุนฯ ว่า จะพิจารณาอนุมัติให้ตามคำขอหรือไม่อีกครั้ง
ผู้ว่าการ กกท. ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กกท. ในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ประสานงานและให้มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งนี้ ให้ประชาชนได้ดูฟรีทุกช่องทาง ได้ปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก กสทช. ในการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 600 ล้านบาท และภาคเอกชนอีกหลายแห่ง ที่ยังได้ให้การสนับสนุน สมทบงบประมาณให้ครบ ทั้งนี้ รวมถึงกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติที่ช่วยเหลืออีกด้วย สำหรับรายละเอียดช่องทางการรับชมต่าง ๆ ทุกช่องทาง รวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ จะมีการแถลงให้ทราบอีกครั้ง