ตำรวจชุดสืบภูธรจ.บุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบ สภ.นางรอง ตามรวบทันควัน "อุ้ม หนองปล่อง" มือยิงพลทหารดับ หลังมีเรื่องชกต่อยหน้าผับ อ้างแค้นแทนน้องชายถูกท้าต่อยแต่ส่วนตัวไม่เคยมีเรื่องกัน เผยก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ส่วนอาวุธปืนอ้างมีคนมาจำนำไว้ 2,000 บาท พบวงจรปิดนาทีขับ จยย.ไล่ตามก่อนประกบยิง
วันที่ 23 พ.ย. 2565 ความคืบหน้ากรณีที่ พลทหารศรรัก วิเศษพันธ์ หรือ ตี๋ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์สังกัดทหารอากาศ ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทย์ชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นหน้าผับแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พอขับรถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพร้อมกับนายทีวุธ สินปรุ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นน้าชายที่ไปเที่ยวด้วยกัน แต่พอมาถึงบริเวณสี่แยกไฟแดงไปรษณีย์ ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มีเรื่องชกต่อยกันหน้าผับขับ จยย. 2 คันๆ ละ 2 คน รวม 4 คนไล่ติดตามมายิงปืนใส่ 1 นัดแต่ไม่โดน พลทหารศรรัก พยายามขับรถหนีแต่วัยรุ่นทั้ง 2 คันก็ขับไล่ตามประกบยิงซ้ำอีก 1 นัดที่บริเวณร้านขายอะไหล่ยนต์ใกล้กับสี่แยกไฟแดงวัดขุนก้อง ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง กระสุนเจาะเข้าชายโครงด้านขวาทะลุปอด เป็นเหตุให้พลทหารศรรัก นอนแน่นิ่งและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเวลาประมาณ 02.08 น.(23 พ.ย.65) ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. (23 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.นางรอง ท้องที่เกิดเหตุ สามารถติดตามจับกุมตัวมือยิงพลทหารศรรัก ได้แล้ว คือพีรพงษ์ แข็งฤทธิ์ หรือฉายา "อุ้ม หนองปล่อง" ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในตำบลหนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งนายพีรพงษ์ นำไปซุกซ่อนไว้ใต้ถังขยะข้างบ้าน จึงได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.นางรอง
เบื้องต้นนายพีรพงษ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุยิงพลทหารศรรักจริง โดยอ้างว่าแค้นแทนน้องชายที่ถูกผู้ตายท้าต่อยในผับ กระทั่งมีเรื่องชกต่อยกันหน้าผับพอผู้ตายขับ จยย.จะกลับบ้านจึงได้ขับ จยย.ไล่ตามมาถึงสี่แยกไปรษณีย์ยิงใส่ไป 1 นัดแต่ไม่โดน จึงขับรถไล่ตามไปอีกเกือบถึงสี่แยกวัดขุนก้องก็ยิงซ้ำไปอีก 1 นัดจนกระสุนโดนพลทหารศรรัก แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะเสียชีวิตหรือไม่ หลังก่อเหตุก็พากันขับรถหลบหนี แต่ส่วนตัวไม่เคยมีเรื่องอะไรกับผู้ตายแค่แค้นแทนน้องชาย และก่อเหตุเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุมีคนมาจำนำเอาไว้ในราคา 2,000 บาท
ขณะที่หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกไปรษณีย์ ก็สอดคล้องกับที่ผู้ต้องหาให้การ คือช่วงเวลา 01.59 น. รถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับมาจากทางถนนสายนางรอง-ชำนิ พอถึงสี่แยกก็แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางวัดขุนก้อง ซึ่งวงจรปิดก็เห็น จยย.ไล่ตามมา 2 คัน ก่อนจะตามทันก่อนถึงแยกวัดขุนก้องแล้วประกบยิง
ด้าน พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.นางรอง กล่าวว่าหลังจากได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน พนักงานสอบสวนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเหตุเกิด ส่วนชุดสืบสวนก็เร่งสอบผู้เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ โดยใช้เวลาเพียงไม่ชั่วโมง ก็ทราบเบาะแสของคนร้ายและติดตามไปจับกุมตัวทันทีได้พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุด้วย ส่วนชนวนเหตุจากการสอบปากคำเบื้องต้นคือมีเรื่องเขม่นกันขณะไปเที่ยว ออกมาก็มาชกต่อยกันหน้าร้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะขับรถไล่ตามไปยิงจนเป็นเหตุให้พลทหารเสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง
ซึ่งนอกจากจะจับกุมมือยิงแล้ว ตำรวจยังได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ชกต่อยกันหน้าผับมาสอบปากคำ และดำเนินคดีฐานทะเลาะวิวาทย์ด้วย สำหรับนายพีรพงษ์ มือยิง ก็เข้าข่ายกระทำผิดฐาน "มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย , พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร , และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"