"บุ๋ม ปนัดดา" เปิดใจหลังคลอดลูกชาย "น้องอเล็กซ์"
วันที่ 23 พ.ย. 2565 แสดงความยินดีกับคุณแม่ลูกสองสุดสวยอย่าง "บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ที่ได้ฤกษ์ดีเวลา 11.11 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 คลอดลูกชายตัวน้อย น้องอเล็กซ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณสามี ก๊อต อธิป และลูกสาว น้องอันดา คอยอยู่เคียงข้าง ช่วยดูแลทั้งคุณแม่คุณลูกไม่ห่าง และล่าสุดวันนี้ "บุ๋ม-ปนัดดา" ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจถึงเรื่องราวน่ายินดีนี้ไว้ว่า
ก็คือผ่าคลอดเวลา 11.11 น. ไม่ได้เน้นฤกษ์อะไร เห็นว่าเลขสวยดี ก็ไม่ได้คิดมากอะไร และมีซินแสมาบอกว่าเลขสวยดี ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะคนที่ 2 แล้วนะ แต่พอจะผ่าจริงกับตื่นเต้น เพร่ะมันห่างจากน้องอันดา 16 ปี คือทุกอย่างเป็นระบบ และเชื่อมือคุณหมอมาก ความเห่อลูกคือ ตอนที่เห็นตอนแรกคือได้ยินว่าคุณพ่อเขาบอกว่าออกมาแล้ว ส่วนตัวเราพอได้ยินเสียงร้องคือใจพองมาก และน้ำตาไหลมาก เลยถามพ่อเขาว่าแข็งแรงไหม ผิวยังไง
ส่วนชื่อคือคิดจนนาทีสุดท้าย คือพ่อเขาเป็นคนคิด ก็ทุกอย่างก็ช่วยกันคิดอีกที จนมาสรุปที่ชื่อ "น้องอเล็กซ์" สุขภาพน้องคือ ด้วยเป็นการผ่าคลอด คือยังมีน้ำคร่ำอยู่ในปอด และตอนนี้อยู่ในตู้อบ ยังไม่ได้กอดอย่างเต็มที่ แต่ทางทีมแพทย์ก็ดูแลอย่างดี ด้วยวัยเราที่อยากมี ก็เลยตัดสินใจกัน และช่วงอายุ 46 ปี ก็กลัวเรื่องสุขภาพ และความสมบูรณ์แข็งแรง และที่เราไม่ได้บอกใคร ไม่มีคนจับพิรุธได้ เพราะเราก็ยังใช้ชีวิตปกติมาก ความตั้งใจแรกคืออยากให้น้องคลอดก่อน เพื่อรอดูความแข็งแรงของสุขภาพแล้วจะบอก แต่สุดท้ายก็มาเรื่องแตกก่อนวันคลอด
คือพอรู้ว่าท้อง ก็ส่งผลเลือดไปตรวจที่อเมริกา ทุกอย่างคือลุ้นมาก ว่าเขาจะอยู่กับเราหรือเปล่า สรุปผลออกมาในทางที่ดี และสรุปเราติดโควิดอีกในช่วงท้อง 5 เดือน เลยต้องเข้ามารับรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัย รับว่าช่วงนั้นก็เครียดนะ ช่วงที่ลงไปช่วยน้ำท่วม คือจะบอกว่าทีมงานก็ไม่รู้ แต่ด้วยความที่เราต้องลงไปช่วยเลยต้องทำ และทางคุณหมอบอกให้ทำตัวปกติ เราเลยทำตัวตามปกติ แต่ก็จะมีคุณหมอแอบดุเหมือนกัน ทำไมเราไม่เลือกที่จะบอกตั้งแต่แรก จะบอกว่าเราคือรอดูผล เลยยังไม่อยากประกาศให้ใครรู้ และกลัวคนมาห้ามเราทำกิจกรรมต่าง ๆ คือเราสตรองเอง ไม่ได้ถือเคล็ดอะไร แต่แค่กลัวเรื่องความสมบูรณ์ของน้อง คนใกล้ตัวก็มารู้เมื่อตอนใกล้คลอด
ทางด้านคุณพ่อดีใจมาก เพราะอยากได้ลูกชายมาเป็นสมาชิกของครอบครัว เพราะเขาอยากมีมาก ถามว่าจะใจอ่อนมีคนต่อไปไหม คงต้องพอก่อน เพราะด้วยอายุเราคงไม่ไหว ส่วนลูกสาวเห่อน้องมาก จนยอมลาเรียนเพื่อมาดูน้อง เพราะว่ารักน้องมาก คือเขาเห่อน้องมาก และแอบพูดขำ ๆ ว่าอนุญาตให้แม่มีน้องได้ แต่เขาต้องเป็นผู้จัดการมรดก หลายคนอิจฉาเรา เพราะลูกมาตามธรรมชาติ ไม่ได้ทำการเลือกเพศ สิ่งที่ทำตอนแรกที่รู้เลยว่าได้ลูกชายคือดีใจมาก ไม่ได้คิดมากว่าจะได้เพศไหน เราโอเคทั้งหมด ขอให้เขาแข็งแรงก็พอ ยังไม่ได้ปิดอู่ถาวร เพราะทางสามียังไม่ให้ทำ แต่ทางครอบครัวเราอยากให้ทำ เพราะกลัวจะติดอีก แต่ก็คงต้องเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันในอนาคต
หลังจากนี้วางแผนว่าคงลุยทำโปรเจคต่อ ทั้งงานต่าง ๆ คือไม่ขอพักงาน คงต้องวางแผนการเลี้ยงอีกที ถามว่าเราเห่อลูกไหม คือไม่อยากวางลูกเลย แต่จะบอกว่าขอโทษมาก ที่ยังพาน้องออกมาหาทุกคนไม่ได้ ส่วนภาวะของลูกตอนนี้ เดี๋ยวก็จะหายไปตามปกติ แค่เป็นภาวะช่วงแรกคลอดเท่านั้น
สำหรับเรื่องดราม่า คือตอนนี้ส่งให้ทนายจัดการแล้ว และที่บอกว่าซุ่มแต่งงาน จะบอกว่าไม่ได้ปิด แต่ด้วยอายุเราทั้งคู่เลยไม่มีงานใหญ่ และที่บอกว่าเราท้องกับใคร จนเป็นดราม่า โดยที่เขาด่ากันไปก่อน จะบอกว่าแต่งงานมา 2 ปีแล้ว ด้วยความเป็นผู้ใหญ่กันแล้วเลยไม่ได้ประกาศอะไร ทางด้านสามีบอกว่าอย่าไปสนใจเรื่องนี้เลย คนอื่นก็พูดกันไปเอง อยู่กับตัวเองดีกว่า ล่าสุดฟ้องร้องไปแล้ว ก็มีหลายเคสอยู่เหมือนกัน ส่วนใครที่บอกว่าโดนปลอมแอบอ้างชื่อ ก็ให้ไปจัดการแจ้งความเอง เป็นประวัติการมาก ที่คนในวงการโทรมาบอกว่าให้ฟ้อง อย่าให้อภัยอย่าใจดีอีก เพราะเราโดนด่าฟรีไม่ได้ เพราะบางคำมันแรงมาก และการมีลูกกับสามีตัวเองมันผิดอะไร มันคือเรื่องปกติ รอบนี้บอกเลยว่าไม่ยอมแล้ว ในช่วงเวลานึง รู้สึกแย่มากกว่า แต่เราคงไปบังคับใครไม่ได้ ถ้าเป็นแฟนคลับเราจริง ๆ ต้องไม่มานั่งด่าเราอย่างเดียว การจัดการตัวเองไม่ให้กระทบลูก เพราะห่วงมาก
สุดท้ายแล้วจะบอกว่า มันคือความสุขในวัยตอนนี้มาก และประสบการณ์มันสอนว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด และทำงานช่วยเหลือทุกคนต่อไป