จับคาผ้าเหลือง! 'พ.ต.ท.' บวชพระหนีคดีทุจริตเงินล่อซื้อยาเสพติด 14 ล้าน ที่ลำปาง จับสึกทันที

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรเถิน จังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นักสืบสวนคดีทุจริต สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ร่วมการจับกุมตัว พันตำรวจโท วีระเดช หรือนายศิระเดช กีรติพสุวัฒน์ อายุ 53 ปี อดีตข้าราชการตำรวจสังกัด กก.สส.บก.น.7 บ้านเลขที่ 45/6 หมู่ 13 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งกระทำผิดฐาน 1. ได้หรือน่าจะได้กระทำผิดอาญาซึ่งอัตรามีโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี ได้หรือน่าจะได้กระทำความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157 และมีเหตุเชื่อว่าจะหลบหนี ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.89/2565 ลง 11 ตุลาคม 2565

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเถิน จังหวัดลำปาง ได้รับการประสานจาก นักสืบสวนคดีทุจริต สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่า พันตำรวจโท วีระเดช หรือนายศิระเดช กีรติพสุวัฒน์ อายุ 53 ปี มีหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.89/2565 ลง 11 ตุลาคม 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น เป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือ โดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ มาตรา 157

จากการสืบสวนทราบว่า นายศิระเดช กีรติพสุวัฒน์ ได้บวชและอาศัยอยู่ วัดดอนไชย หมู่ 7 ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเถิน และเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้เข้าทำการตรวจสอบวัดดอนไชย พบนายศิระเดช กีรติพสุวัฒน์ กำลังยืนอยู่บริเวณข้างกำแพงด้านในวัด จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำหมายจับดังกล่าว ออกมาแสดงให้นายศิระเดชฯ ผู้ต้องหาดูและตรวจสอบซึ่งผู้ต้องหาตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว ตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของตนเองตรงกับหมายเลขในหมายจับ นายศิระเดชฯ รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับในหมายจับที่ออกให้จับกุมตนเองจริง และตนเองยังไม่เคยถูกจับและถูกดำเนินคดีตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน จึงได้แจ้งให้นายศิระเดช กีรติพสุวัฒน์ ทราบ แล้วจึงได้เชิญพระอุปัชฌาย์ เจ้าคณะตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน มาทำการสึก แล้วจึงได้จับกุมบุคคลดังกล่าวนำส่ง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป